{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ขานรับนโยบายรัฐบาล ผนึกกำลังสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ประกาศโครงการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เสริมสภาพคล่องฉุกเฉินในการดำรงชีพ ต่อเติมซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือสถานประกอบการหรือฟื้นฟูการประกอบอาชีพ จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการช่วยเหลือ : พักเงินต้น ยกดอกเบี้ย รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นเวลา 12 เดือน 2. โครงการสินเชื่อเพื่อเยียวยา : ให้ลูกหนี้เดิมกู้เพิ่มรายละไม่เกิน 100,000 บาท ดอกเบี้ย 0% 12 เดือนแรก และ 3. โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู : ให้สินเชื่อรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0% 12 เดือนแรก
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (สงร.) เปิดเผยว่า ตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ) ได้มีนโยบายให้สมาคมสถาบันการเงินของรัฐเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ และคณะรัฐมนตรี (ครม.)`วันที่ 2 ธ.ค.2568 ได้มีมติเห็นชอบมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เสริมสภาพคล่องฉุกเฉินในการดำรงชีพ ต่อเติมซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือสถานประกอบการหรือฟื้นฟูการประกอบอาชีพ เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็วนั้น สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.)และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) พร้อมสนับสนุนการดำเนินการมาตรการดังกล่าว รายละเอียดดังนี้
1. โครงการช่วยเหลือ : พักเงินต้น ยกดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ช่วยให้กลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว โดยพักชำระเงินต้นและยกเว้นดอกเบี้ย รายละไม่เกิน
1 ล้านบาท เป็นเวลา 12 เดือน โดยระหว่างพักชำระหนี้ ดอกเบี้ย 0% สำหรับบัญชีลูกหนี้สถานะบัญชีปกติ และบัญชีลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างปรับปรุงโครงสร้างหนี้และสามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ ยังคงชั้นหนี้เดิมตลอดระยะเวลาการพักชำระหนี้ ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ได้เข้าร่วมมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้จากมาตรการอื่นๆ ของสถาบันการเงินของรัฐแล้ว สามารถเปลี่ยนมาใช้โครงการช่วยเหลือฯ ได้ โดยสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 31 มกราคม 2569
2. โครงการสินเชื่อเพื่อเยียวยา : เพื่อให้ลูกหนี้เดิมมีสภาพคล่องฉุกเฉินในการดำรงชีพ มีเงินทุนในการประกอบอาชีพ หรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือสถานประกอบการ โดยให้ลูกหนี้เดิมกู้เพิ่มภายใต้วงเงินกู้เดิมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ รายละไม่เกิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี 12 เดือนแรก ระยะเวลากู้และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 2 เป็นต้นไปเป็นไปตามที่ธนาคารแต่ละแห่งกำหนด สำหรับบัญชีลูกหนี้สถานะบัญชีปกติ ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ได้เข้าร่วมมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ของสถาบันการเงินของรัฐแล้ว สามารถเปลี่ยนมาใช้โครงการสินเชื่อเพื่อเยียวยาได้ โดยสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 31 มีนาคม 2569
3 โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู : เพื่อให้ผู้ประสบอุทกภัยมีเงินทุน เพื่อต่อเติมหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย หรือฟื้นฟูการประกอบอาชีพ วงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี 12 เดือนแรก ระยะเวลากู้และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 2 เป็นต้นไปเป็นตามที่ธนาคารแต่ละแห่งกำหนด โดยผู้กู้ต้องมีสถานะบัญชีปกติ ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ได้เข้าร่วมมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ของสถาบันการเงินของรัฐแล้ว สามารถเปลี่ยนมาใช้โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูได้ โดยสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2569
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ดังกล่าวต้องมีภูมิลำเนาหรือสถานประกอบการหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัยตามประกาศกองอำนวยการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และมีหลักฐานว่าได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติอุทกภัย หลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่สถาบันการเงินของรัฐแต่ละแห่งกำหนด
ทั้งนี้ สามารถลงทะเบียนยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทาง Mobile Application หรือช่องทางอื่นๆ ของสถาบันการเงินของรัฐแต่ละแห่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center Line Facebook Website Mobile Application และช่องทางอื่นๆ ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง
หมายเลข Call Center ของสถาบันการเงินของรัฐ
ธนาคารออมสิน 1115
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 0 2555 0555
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 0 2645 9000
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) 0 2271 3700
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) 1357
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (IBank) 1302
สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ โทร. 0-2558-6555 ต่อ 6337 – 6338
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS