สมาคมและภาคเอกชนด้านโดรน ร่วมระดมกำลังสนับสนุนภารกิจช่วยเหลืออุทกภัยภาคใต้ CAAT หนุนเต็มที่ให้การปฏิบัติการบินเกิดขึ้นอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

สมาคมและภาคเอกชนด้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือโดรน จากหลายบริษัทชั้นนำของไทยได้ร่วมระดมโดรน ระบบสนับสนุน และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยเสริมภารกิจค้นหา–กู้ภัย การสำรวจพื้นที่ และการขนส่งเร่งด่วนทางอากาศในสถานการณ์อุทกภัยที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และพื้นที่ประสบอุทกภัยใกล้เคียง โดยมีสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ทำหน้าที่กำกับดูแลและสนับสนุนให้การบินโดรนทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสากล และประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยปฏิบัติการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

ความร่วมมือครั้งนี้รวมระบบอากาศยานและอุปกรณ์ช่วยเหลือ จากบริษัทเอกชนและสมาคมด้านโดรนหลายแห่ง โดยมีกำลังสนับสนุนสำคัญประกอบด้วย:

1. บริษัท ซิสทรอนิกส์ จำกัด สนับสนุน โดรนขนส่งขนาดใหญ่ 2 ลำ โดรนกู้ภัยขนาดกลาง 2 ลำ โดรนสำรวจขนาดเล็ก 4 ลำ

2. บริษัท อีชี่ (2018) จำกัด ร่วมกับสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ สนับสนุน นักบินโดรน 8 นาย โดรนขนส่ง 4 ลำ โดรนกระจายเสียง 1 ลำ โดรนส่องสว่าง 2 ลำ โดรนตรวจจับ–ค้นหาผู้ประสบภัย 2 ลำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า 1 เครื่อง และอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางอากาศครบชุด

3. บริษัท เดลว์ แอโรสเปซ จำกัด สนับสนุน ระบบ Jitasa.Care สำหรับติดตามคำร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ประสบภัย ระบบติดตามเรือและโดรนในพื้นที่ปฏิบัติการ

4. บริษัท เอวิล่อน โรโบติคส์ จำกัด สนับสนุน โดรนขนาดใหญ่ 4 ลำ โดรนถ่ายภาพความร้อน 2 ลำ โดรนถ่ายภาพ DJI 2 ลำ

5. บริษัท เอ็ม เจ จี (ประเทศไทย) จำกัด สนับสนุนโดรนเกษตรและโดรนขนส่ง ได้แก่ T40, T50 อย่างละ 3 ลำ T70, T100 อย่างละ 2 ลำ Flycart 30 จำนวน 1 ลำ

6. บริษัท เอช.จี. โรโบติกส์ จำกัด สนับสนุน ไทเกอร์โดรน TGD25 จำนวน 20 ชุด

7. บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้จัดส่งโดรนเกษตรเข้าพื้นที่ จำนวน 15 ลำ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการ

8. บริษัท ไทย แอร์โรสเปซ อินดัสทรีส์ จำกัด สนับสนุน โดรนสำหรับภารกิจช่วยเหลือ 1 ลำ

9. บริษัท สไกลเลอร์ โซลูชั่นส์ จำกัด สนับสนุน โดรนช่วยเหลือ 3 ลำ โดรนขนส่ง 1 ลำ โดรนสำรวจ 3 ลำ

10. บริษัท หนึ่งสาม สโตร์ จำกัด สนับสนุน โดรนอัตโนมัติสำหรับการค้นหา พร้อมกล้องตรวจจับกลางคืน โดรนขนส่งภารกิจเร่งด่วนแบบคล่องตัว และทีมงานนักบินและช่างเทคนิคประจำภาคสนาม

การสนับสนุนจากภาคเอกชนในครั้งนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงานค้นหา–กู้ภัย การประเมินความเสียหาย และการขนส่งเร่งด่วนให้ถึงพื้นที่ประสบภัยได้รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น และ CAAT ยืนยันว่าจะทำหน้าที่กำกับดูแลและสนับสนุนการปฏิบัติการบินโดรนในพื้นที่ประสบภัยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัย เพื่อให้ภารกิจช่วยเหลือประชาชนในภาคใต้ดำเนินไปอย่างราบรื่น เร่งด่วน และมีประสิทธิภาพสูงสุด