{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
กลุ่มเจมาร์ท ดึง Synergy นำจุดแข็งบริษัทในเครือเสริมทัพ รับมือสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ย้ำกระแสเงินสดของบริษัทเพียงพอต่อการดำเนินงาน และชำระหนี้สถาบันการเงิน
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า กลุ่มเจมาร์ท เร่งปรับแผนแก้เกมรับมือสถานการณ์สถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) อย่างเข้มข้น ด้วยการ Synergy ร่วมกันของบริษัทในเครือ ช่วยสนับสนุนทั้งในด้านการขายสินค้ามือถือ และอุปกรณ์เสริมผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมรับมือสถานการณ์ในช่วงต่อจากนี้ ตอกย้ำช่องทางค้าปลีกที่เข้มแข็ง และมีธุรกิจการเงินที่เป็นฐานกำไรสำคัญ
โดยกลุ่มเจมาร์ท ผู้นำธุรกิจค้าปลีกและการเงินที่มีความแข็งแกร่ง ในฐานะโฮลดิ้ง คอมพานี มีบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT) ผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ ที่ยังคงสร้างผลประกอบการได้อย่างโดดเด่นสุด ทิศทางการจัดเก็บหนี้สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากพอร์ตบริหารหนี้สะสมในปัจจุบันอยู่ที่ 177,000 ล้านบาท ขณะที่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (SINGER) ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อรถทำเงิน มีช่องทาง Direct Sale (ขายตรง) เจาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด สามารถเพิ่มยอดขาย เป็นโอกาสทางธุรกิจแม้ในยามวิกฤตเช่นนี้ได้ ทั้งสองบริษัทย่อยนี้จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการประกาศปิดห้างสรรพสินค้าของรัฐบาล
นอกจากนี้ บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และแอพพลิเคชันทางด้านฟินเทค ธุรกิจยังเดินหน้าได้ตามปกติ แม้โดยภาพรวมมีผลกระทบบ้างกับธุรกิจมือถือและสินค้าเทคโนโลยีของ บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด และ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) (J) นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัท บีนส์แอนด์บราวน์ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารและกาแฟ ที่ปฏิบัติตามมาตรการปิดห้างเพื่อลดความเสี่ยงจากโควิด-19 จึงได้ปรับกลยุทธ์ทำให้ผลกระทบดังกล่าวลดลง และสร้างโอกาสในการขยายช่องทางการจำหน่ายมายังออนไลน์ รวมทั้งเน้นการ Synergy กันมากขึ้น
ส่วนสภาวะการณ์ที่ต้องปฎิบัติตามนโยบายของภาครัฐนั้น บริษัทสามารถปรับเกมธุรกิจโดยให้พนักงานหน้าร้านที่ต้องปิดตามนโยบายภาครัฐส่วนหนึ่งเข้ามาทำงานในส่วนงานของธุรกิจติดตามหนี้ของ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT) เพื่อเพิ่มกระแสเงินสดให้กับบริษัทย่อย เสริมศักยภาพในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท
ในด้านสถานะการเงิน บริษัทได้วางแผนกระแสเงินสดล่วงหน้าไว้แล้วทั้งปี 2563 นี้ โดยปัจจุบันเจมาร์ท มีเงินสดมากกว่า 500 ล้านบาท และส่วนของเจเอ็มที ก่อนหน้านี้ต้นเดือนมีนาคมได้ระดมทุนจากการออกหุ้นกู้ไปกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมกระแสเงินสดที่เจเอ็มที จัดเก็บได้แต่ละเดือน ซึ่งเพียงพอต่อการจ่ายชำระหนี้คืนให้กับสถาบันการเงิน และหุ้นกู้ที่ครบกำหนด
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS