5 โบรกวิเคราะห์จุดเด่น ONSENS สร้างโอกาสเติบโตระยะยาว

Finansia , Krungsri , Globlex , Beyond และ Krungthai ประเมินราคาเป้าหมาย หุ้น “ONSENS” 2.85 – 3.40 มั่นใจธุรกิจโตต่อเนื่อง รับอานิสงส์ เมกะเทรนด์ด้านสุขภาพที่ขยายตัวเร็ว ฐานดีมานด์จากนักท่องเที่ยว และรัฐผลักดัน คาดโครงการ Social Wellness Space เตรียมเปิดตัวปี 2027 รองรับการเติบโตระยะยาว

บริษัท ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ONSENS ผู้ให้บริการออนเซ็นและสปาครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย ด้วยการผสมผสานวัฒนธรรมการแช่ออนเซ็นแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นเข้ากับศาสตร์การนวดไทยที่มีเอกลักษณ์ และการให้บริการที่มีมาตรฐานการดูแลแบบ Omotenashi ใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อส่งมอบบริการที่เหนือความคาดหมายมากว่า 13 ปี โดยมุ่งเน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม “Holistic Wellness” ให้บริการภายใต้ 2 แบรนด์หลัก ได้แก่ “ยูโนะโมริ ออนเซ็น แอนด์ สปา” บริการออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นและร่วมกับสปาแห่งแรกในประเทศไทย ปัจจุบันมี 4 สาขา ได้แก่ สุขุมวิท 26, สาทร 10 และพัทยา และในประเทศสิงคโปร์ 1 สาขา และ แบรนด์ “คลาย สปา” จำนวน 1 สาขา ย่านเยาวราช ให้บริการสปาในรูปแบบเดย์สปา ผสมผสานศาสตร์การนวดไทยโบราณเข้ากับเทคนิคการบำบัดสมัยใหม่ เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ หมวดธุรกิจท่องเที่ยวและสันทนาการ จำนวน 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท

โดยบริษัทหลักทรัพย์ 5 แห่ง มองภาพรวมโอกาสการเติบโต ของ ONSENS ไปในทิศทางเดียวกัน ปัจจัยสนับสนุน จากเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพ ความต้องการผู้บริโภคยุคปัจจุบันหันมาใส่ใจในการดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตสูงขึ้น เป็นโอกาสสร้างการเติบโตของธุรกิจเชิงสุขภาพและ Wellness & spa

บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ประเมินราคาเป้าหมายที่ 3.20 บาท (SOTP) คิดเป็น Implied P/E ปี 2571 เพียง 14.1 เท่า เมื่อเปิดให้ครบทุกโครงการ

คาดการกำไรสุทธิเติบโต 15% ในปี 2568 และ 20% ในปี 2570 ตามลำดับ

ด้วยแรงหนุนจากการเติบโตของสาขาเดิม และการขยายตัวอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมสปาไทย ซึ่งประเทศไทยมีจุดแข็งด้าน Wellness Tourism และฐานดีมานด์จากนักท่องเที่ยว และรัฐผลักดัน Medical & Wellness Hub รวมถึงมีแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์ อยู่ในทําเลที่มีศักยภาพ ธุรกิจหลักแบ่งเป็นสองแบรนด์คือ Yunomori Onsen and Spa และ KLAI Spa เสริมด้วย F&B ภายใต้แบรนด์ Happy Rice และจําหน่ายสินค้าและของที่ระลึกที่ต่อยอดแบรนด์ผ่านการ Collaboration รายได้จากบริการออนเซ็นและสปาคิดเป็น 80%-87% ของรายได้รวม รายได้ F&B 12%-15% และการจําหน่าย สินค้า 1%-5% และใน 1H25 โครงสร้างยังคงใกล้เคียงเดิม

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองว่าบริษัทฯ มีศักยภาพเติบโตโดยคาดการผลประกอบการเฉลี่ย 40% ต่อปี (CAGR 25-27F) ซึ่งการเติบโตมาจาก แบรนด์ Yunomori และ KLAI

โดยได้ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมสำหรับบริษัท ฯ ที่ราคา 3.40 บาท อ้างอิงจากการประเมินมูลค่าด้วยวิธี DCF (WACC 9.3%, Rf 2.5%, Risk premium 8% และ Beta 1) จากการคาดการณ์ผล ประกอบการของบริษัทจะเติบโตจากการขยายสาขาและแบรนด์ใหม่ในระยะยาว รวมถึงการรับรู้โครงการใหม่ในอนาคตจากโครงการ Social Wellness Hotel and Spa ทองหล่อ จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดแก่บริษัท

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด คาดการณ์กำไรปี 68 - 69 ราว 28 - 43 ลบ. เติบโตเฉลี่่ย CAGR 14% ต่อปี คาดการณ์รายได้ปี 68 อยู่ที่ราว 280 ลบ. หดตัว 3%YoY เนื่องจากคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวปี 68 จะชะลอตัวจากปีก่อน 2.8% สู่ 34.5 ล้านคน ทั้งนี้ ได้ประเมินราคาเหมาะสม ONSENS ด้วยวิธี Market Comparable Approach อิงจาก Prospective PE ที่ระดับ 21.5x ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีของหลักทรัพย์ SPA และกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประเมินกำไรสุทธิต่อหุ้นในปี 69 ราว 0.14 บาท ส่งผลให้คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 69 ที่ 3.00 บาท สะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท

บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการออนเซ็นและสปาเพื่อสุขภาพที่มีแบรนด์แข็งแกร่งอย่าง "ยูโนะโมริ" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของออนเซ็นแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมในไทย นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพ การเข้าถึงบุคลากรที่มีคุณภาพจากการเป็นพันธมิตรกับสถาบันการศึกษา และบริการที่หลากหลายซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจร ระบุราคาที่เหมาะสมของ ONSENS ที่ราคา 2.90 บาท แบ่งเป็นมูลค่าของธุรกิจหลักของ ONSENS 2.84 บาท ด้วยวิธี DCF (WACC 8.3% , TG 3.0%) และมูลค่าของ JV 0.06 บาท ด้วยวิธี PER ที่ 10 เท่า คิดเป็น PER ของกำไรในปี 2026 ที่ระดับ 20 เท่า พร้อมการเติบโตเฉลี่ย 4 ปีที่ 19% CAGR จากการการขยายแบรนด์ และสาขาใหม่ และการลงทุนในโครงการ Social Wellness Hotel and Spa ทองหล่อ

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 2.85 บาท ด้วยวิธี Sum-of the-parts แบ่งเป็น 2.50 บาทจากธุรกิจออนเซ็นและสปา (Earnings Yield, อัตราผลตอบแทนคาดหวัง 5.2%) และ 0.35 บาท สำหรับธุรกิจ โรงแรม (DCF, WACC 7.0%) ทั้งนี้ ระดับราคาดังกล่าวเทียบเท่า 2026E PER ที่ 20.2 เท่า

กำไรต่อหุ้นของบริษัทให้เติบโตเฉลี่ย 12.7% ต่อปีระหว่างปี 2024-2027E ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการให้บริการสปาที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร บริษัทเข้าสู่ช่วงการขยายการลงทุน มุ่งเน้นไปสู่การเปิดตลาดให้กว้างขวางขึ้น รวมถึงโอกาสในการร่วมลงทุนในธุรกิจโรงแรม ซึ่งจะเปิดให้บริการในพื้นที่เดียวกัน คาดว่าจะ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งสู่ธุรกิจ

จากการวิเคราะห์โดยรวมของนักวิเคราะห์จากทั้ง 5 บริษัทหลักทรัพย์ประเมินสรุปได้ว่า ONSENS ได้รับการมองว่าเป็นหุ้นที่มีโอกาสเติบโตได้อีกในอุตสาหกรรมสุขภาพและการท่องเที่ยว นักลงทุนสามารถพิจารณาถึงความโดดเด่นของแบรนด์ กลยุทธ์การเติบโตที่ชัดเจน และโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างมูลค่าในอนาคต


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment