Thailand Taxonomy: จากมาตรฐานสู่โอกาส – เส้นทางใหม่ของธุรกิจไทยในยุคเศรษฐกิจสีเขียว

ปัจจุบันโลกธุรกิจไม่ได้แข่งขันเพียงด้านราคาและคุณภาพ แต่แข่งขันกันที่ “ความยั่งยืน” ซึ่งเป็นตัววัดความสามารถในการอยู่รอดในระยะยาว การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียวจึงไม่ใช่แค่ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม แต่คือกลยุทธ์การเติบโตที่จะสร้างความได้เปรียบให้กับผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก แนวคิดเรื่อง Thailand Taxonomy กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญที่องค์กรธุรกิจไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป

วิจัยกรุงศรี ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Thailand Taxonomy มาตรฐานจำแนกกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน พร้อมทั้งวิเคราะห์ถึงการเตรียมพร้อมกับมาตรฐานใหม่เพื่อการลงทุนสีเขียวว่า ในยุคที่โลกเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมและแรงกดดันจากมาตรการด้านความยั่งยืนทั้งในและต่างประเทศ องค์กรที่ปรับตัวตามแนวทาง Taxonomy จะสามารถสร้างความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและคู่ค้า และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียวอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง Thailand Taxonomy เป็นมากกว่ากฎเกณฑ์ที่ใช้การจัดกลุ่มแบบสัญญาณไฟจราจร เขียว-เหลือง-แดง แต่คือ “ภาษากลาง” ที่จะเชื่อมโยงนักลงทุน ธุรกิจ และสังคม เข้าด้วยกันในระบบเศรษฐกิจที่โปร่งใสและยั่งยืน สำหรับประเทศไทยที่ได้ประกาศใช้ Thailand Taxonomy ระยะที่ 2 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2568 นับเป็นก้าวสำคัญที่จะเป็นเสมือนเข็มนำทางให้ภาคธุรกิจ นักลงทุน และภาครัฐ ได้เดินหน้าสู่เป้าหมายเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม

ทำไม Taxonomy ถึงเป็น Game Changer

ธุรกิจที่ปรับตัวเข้ากับเกณฑ์ Taxonomy ได้เร็ว จะลดความเสี่ยงด้านการกำกับดูแล พร้อมสร้างความได้เปรียบในการเข้าถึงเงินทุนที่ต้นทุนต่ำกว่า และเจาะตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับ ESG นอกจากนี้ ในยุคที่การเงินสีเขียวไม่ใช่ทางเลือกกลายเป็นเส้นเลือดใหม่ของเศรษฐกิจในอนาคต เงินทุนจะหลั่งไหลไปสู่ธุรกิจที่พิสูจน์ได้ว่ามีกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ทั้งยังเปิดโอกาสให้เกิดนวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์ข้อจำกัดด้านพลังงาน คาร์บอน และทรัพยากรที่ยั่งยืนกว่าเดิม

ในบริบทของไทย Thailand Taxonomy ได้กำหนด “กิจกรรมสีเหลือง” เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่าน โดยให้เวลาถึงปี 2583 ในการปรับตัวสู่กิจกรรมสีเขียวอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งต่างจากสหภาพยุโรปที่มีเพียงกิจกรรมสีเขียวและสีแดง การมีพื้นที่สีเหลืองสะท้อนความยืดหยุ่นของไทยต่อภาคธุรกิจ พร้อมเปิดทางสู่แหล่งเงินทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่าน เช่น กองทุนภูมิอากาศและเครื่องมือทางการเงินที่ออกแบบตามเกณฑ์ Taxonomy อย่างชัดเจน

ปัจจุบัน การนำ Thailand Taxonomy ไปใช้ยังคงเป็นภาคสมัครใจ แต่ถือเป็นหมุดหมายที่ภาคธุรกิจสามารถสร้างการสื่อสารที่ดีผ่านการรายงานผลการดำเนินงานเพื่อดึงดูดนักลงทุน คู่ค้า และลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพราะการปรับตัวสู่ความยั่งยืนไม่อาจทำได้ลำพัง การสร้างความร่วมมือของสถาบันการเงิน เทคโนโลยี และพันธมิตรในห่วงโซ่ จะช่วยลดต้นทุนการเปลี่ยนผ่านและเพิ่มโอกาสเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ๆ

สำหรับภาคการเงิน Thailand Taxonomy ถือเป็นคู่มือสำคัญที่ช่วยให้ธนาคารสามารถปรับพอร์ตสินเชื่อไปสู่กิจกรรมที่ยั่งยืน ออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เช่น สินเชื่อสีเขียวหรือตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน และบริหารความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม–สังคมได้อย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนและพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ

ดังนั้น Thailand Taxonomy คือจุดเริ่มต้นของการสร้างมาตรฐาน แต่สำหรับความสำเร็จของธุรกิจไทยขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองสิ่งนี้เป็นเพียงข้อกำหนดหรือจะใช้มันเป็นเครื่องมือสร้างความเป็นผู้นำ (Leadership Tool) ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนบนเวทีโลก


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment