SCB FM มองบาทที่อ่อนค่าเป็นจังหวะให้ผู้ส่งออกขาย USDTHB ได้ ก่อนที่เงินบาทจะกลับมาแข็งค่าจากแนวโน้มดีลการค้ากับสหรัฐฯ

นายวชิรวัฒน์ บานชื่น นักกลยุทธ์ตลาดการเงินอาวุโส สายงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากไทย 36% แต่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นไป โดยในระหว่างนี้ ทรัมป์ยังเปิดโอกาสให้ไทยเข้าเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ และหากเป็นที่น่าพอใจก็พร้อมจะปรับลดอัตราภาษีลงให้ได้บางส่วน สำหรับผลกระทบต่อเงินบาท พบว่าเงินบาทยังทรงตัว หลังจากที่อ่อนค่าขึ้นไปราว 30 สตางค์ (ราว 0.9%) ตั้งแต่วันก่อน เพราะมีรายงานข่าวว่า ทรัมป์เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม BRICS เพิ่มอีก 10% (จากเดิมที่ถูกเรียกเก็บที่ 10% อยู่แล้ว) จึงทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินเยน เงินวอน และเงินบาท อ่อนค่าลง

เงินบาทที่อ่อนค่าขึ้นไปเร็วเหนือระดับ 32.50 เป็นจังหวะดีที่ผู้ส่งออกจะรีบขาย USDTHB ในช่วงนี้ เนื่องจากมองว่ามีโอกาสที่ทรัมป์จะปรับลดอัตราภาษีต่อไทยลงได้ส่วนหนึ่งในระยะต่อไป โดยหากดูจากแถลงการณ์ของสหรัฐฯ จะพบว่าทางสหรัฐฯ เปิดช่องทางให้ไทยเจรจา โดยกล่าวว่าหากไทยสามารถ 1) เข้าไปลงทุนและผลิตสินค้าในสหรัฐฯ 2) นำเข้าสินค้าสหรัฐฯ มากขึ้น และ 3) ปรับลดอัตราภาษีนำเข้าที่เรียกเก็บจากสหรัฐฯ ก็อาจพิจารณาปรับลดอัตราภาษีนำเข้าลงได้

โดยล่าสุดทางการไทยได้ยื่นข้อเสนอล่าสุดต่อสหรัฐฯ ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งค่อนข้างครอบคลุมกับสิ่งที่สหรัฐฯ เรียกร้องในแถลงการณ์ จึงมีโอกาสที่สหรัฐฯ จะลดภาษีลงได้ อย่างไรก็ดี หากประเมินจากข้อเสนอที่เวียดนามได้ยื่นให้แก่สหรัฐฯ และอัตราภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากเวียดนามที่ 20% ก็ทำให้อนุมานได้ว่า ไทยอาจถูกเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่า 20% ได้ จึงมองว่ามีโอกาสที่ไทยอาจถูกปรับลดภาษีลงมาอยู่ระหว่าง 20-35% ซึ่งอาจทำให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าจากระดับปัจจุบันได้

สำหรับผู้ส่งออก USDTHB ที่ระดับราว 32.50-32.80 เป็นระดับที่ขายได้ โอกาสที่บาทจะอ่อนค่าแรงมีน้อยลงแล้ว เว้นแต่สถานการณ์การเมืองไทยจะแย่ลง โดยหากไม่สามารถโหวตเลือกนายกฯ ได้เร็ว หรือมีแนวโน้มที่จะยุบสภา ก็อาจทำให้บาทอ่อนค่าใกล้ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ได้ สำหรับการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ สิ่งที่น่ากังวลคือเรื่องการสวมสิทธิ์ส่งออกของจีน ซึ่งยังไม่ถูกกล่าวถึงในแถลงการณ์ของสหรัฐฯ และเป็นปัญหาใหญ่ที่ไทยอาจต้องใช้เวลาในการแก้ไข หากประเด็นนี้ถูกหยิบยกมาใช้ต่อรองกับไทย ก็อาจเป็นเหตุให้ไทยถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงได้ และทำให้บาทอ่อนค่าต่อ

สำหรับผู้นำเข้า USDTHB ที่ระดับราว 32.00-32.30 เป็นระดับที่ซื้อได้ โดยนายวชิรวัฒน์มองว่า อาจให้รอการเจรจาการค้าระหว่างทางการไทยกับสหรัฐฯ ไปก่อน ซึ่งมองว่าที่ผ่านมา หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษี หรือขู่ว่าจะขึ้น จะพบว่าดัชนีเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นพร้อมกับสกุลเงินภูมิภาคที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีการเลื่อน Deadline ออกไปหรือลดอัตราภาษีลงบางส่วน ค่าเงินภูมิภาคก็จะทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้น ซึ่งในรอบนี้ SCB FM มองว่ามีโอกาสสูงที่เงินบาทจะทยอยกลับมาแข็งค่าในกรอบใกล้เคียงเดิม จึงแนะให้ลูกค้ารอเข้าซื้อได้ อย่างไรก็ดี ด้วยเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (เช่น ตลาดแรงงาน) ที่ออกมาดี ทำให้โอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยลงเร็วมีน้อยลง จึงทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์อาจไม่อ่อนค่าได้มากในระยะสั้นนี้ จึงมองว่าโอกาสที่เงินบาทจะแข็งค่าต่ำกว่า 32.00 มีไม่มากนัก แต่ในระยะยาว (เช่น ปลายไตรมาส 3) ก็อาจเห็นเงินบาทแข็งค่าต่ำกว่า 32.00 ได้ในบางช่วง


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment