{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลา แถมคาดเดาไม่ได้ว่าผลกระทบที่ตามมาจะเล็กหรือใหญ่ น่าเสียดายที่หลายคนมอง “ประกันอุบัติเหตุ” เป็นการจ่ายเงินทิ้งในแต่ละปี ทั้งที่จริง ๆ เป็นการสร้างเกราะป้องกันชั้นดีที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ตัวเราและครอบครัวก้าวข้ามช่วงเวลาลำบากได้ วันนี้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ จะพาไปรู้จักประกันอุบัติเหตุว่าสำคัญอย่างไร พร้อมเคล็ดลับการเลือกซื้อประกันอย่างไรให้คุ้มค่าและคุ้มครองทุกความต้องการ
ส่องข้อดี ทำไมต้องมี “ประกันอุบัติเหตุ”
เพราะความเสี่ยงมีอยู่รอบตัว แม้จะระวังอย่างดีก็มีโอกาสพลาด ยิ่งคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ การมีประกันอุบัติเหตุไว้ช่วยให้อุ่นใจขึ้นเยอะ เพราะหากเจอภัยร้าย บริษัทผู้ให้บริการประกันอุบัติเหตุจะเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล หรือจ่ายเงินชดเชยในกรณีที่เจ้าของประกันอุบัติเหตุ สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพและเสียชีวิต ซึ่งมีข้อดีมากมาย อาทิ
กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุให้ความคุ้มครองทุกช่วงอายุ
ราคาเบี้ยประกันอุบัติเหตุถูกกว่าประกันภัยรูปแบบอื่น ๆ
ค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุคงที่จึงวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น
ซื้อประกันอุบัติเหตุได้ความคุ้มครองทันที โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ
คุ้มครองอุบัติเหตุที่บาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงบาดเจ็บขนาดใหญ่จนเสียชีวิต
ชดเชยเงินในกรณีเจ้าของประกันอุบัติเหตุเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ
ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวจากอุบัติเหตุ
รู้จักประกันอุบัติเหตุ แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร
1. ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือ ประกันภัย PA (Personal Accident Insurance) เป็นกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองแก่เจ้าของและครอบครัวของผู้ถือกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุฉบับนั้นโดยเฉพาะ แบ่งประเภทตามรูปแบบความคุ้มครอง ดังนี้
ประกันภัย PA กรมธรรม์ให้ความคุ้มครองทั่วไป : เป็นประกันภัยที่มีค่าเบี้ยราคาถูก ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมอุบัติเหตุขั้นพื้นฐาน อาทิ อุบัติเหตุจากการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว แต่แผนประกันประเภทนี้ มักจะไม่มีการจ่ายเงินชดเชยในกรณีที่ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เหมาะกับคนที่มีความเสี่ยงน้อย ทั้งจากการเดินทาง การทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน
ประกันภัย PA กรมธรรม์ให้ความคุ้มครองขั้นสูง : เป็นแผนประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุครอบคลุมมากขึ้น แต่ราคาค่าเบี้ยประกันไม่ได้ต่างจากแบบคุ้มครองทั่วไปมากนัก เหมาะกับคนที่มีความเสี่ยงจากการเดินทาง การทำงาน งานอดิเรกหรือการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น นักกีฬาปีนผา, กระโดดร่ม เป็นต้น โดยผู้ที่ซื้อแผนประกันประเภทนี้จะได้รับเงินชดเชยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นทุพพลภาพ สูญเสียอวัยะ หรือเสียชีวิต
2. ประกันอุบัติเหตุแบบกลุ่ม เป็นกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุที่ให้ความคุ้มครองแก่กลุ่มสมาชิกที่รวมตัวกันเพื่อซื้อประกันฉบับนั้น ๆ หรือมีชื่อเรียกที่หลายคนคุ้นเคยในนาม ‘สวัสดิการ’ จากนายจ้างที่ซื้อประกันอุบัติเหตุแบบกลุ่มมอบให้พนักงานในสังกัด โดยคิดค่าเบี้ยประกันเหมาจ่ายเป็นรายหัวภายในบริษัท
3. ประกันอุบัติเหตุสำหรับนักเรียน นิสิตและนักศึกษา กรมธรรม์ประเภทนี้คล้ายกับประกันอุบัติเหตุแบบกลุ่ม แต่เป็นการซื้อประกันภัยกลุ่มโดยโรงเรียนและมหาวิทยาลัยมอบให้นักเรียน นิสิตและนักศึกษาในสถาบันการศึกษาเพื่อคุ้มครองนักเรียนในสังกัดจากอุบัติเหตุต่าง ๆ
หากเจาะลึกถึงรายละเอียดความคุ้มครองของแผนประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ทางสมาคมประกันวินาศภัยไทยได้แบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่
แผนประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล แบบ อบ.1 ให้ความคุ้มครอง
แผนประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล แบบ อบ.2 ให้ความคุ้มครอง
การสูญเสียนิ้วมือ นิ้วเท้า
การสูญเสียการรับฟัง และการพูดออกเสียง
การทุพพลภาพชั่วคราวบางส่วน หรือการทุพพลภาพถาวรบางส่วน
การทุพพลภาพชั่วคราวสิ้นเชิง หรือการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
การสูญเสียอวัยวะ สายตา และเสียชีวิต
สำหรับกรณีที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล อาทิ
อุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้สารเสพติดหรือของมึนเมา
อาหารเป็นพิษ หรือการติดเชื้อโรค ยกเว้นได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าติดเชื้อจากแผลที่เกิดอุบัติเหตุ
บาดเจ็บจากการทำร้ายตัวเอง หรือเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย
การรักษาทางทันตกรรมหรือศัลยกรรม ยกเว้นได้รับคำวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามีสาเหตุจากการเกิดอุบัติเหตุอาการปวดกระดูกจากการเสื่อมของร่างกาย ยกเว้นได้รับคำวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามีสาเหตุจากการเกิดอุบัติเหตุ อุบัติเหตุในสงคราม การจลาจลและการก่อการร้าย
อาการบาดเจ็บจากการระเบิดของกัมมันตภาพรังสี เป็นต้น
เลือกซื้อประกันอุบัติเหตุอย่างไรให้คุ้มค่า
ก่อนตัดสินใจซื้อประกันอุบัติเหตุสักฉบับ ควรสำรวจความต้องการของตนเองว่าในชีวิตประจำวันมีการเดินทาง การทำงานหรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากน้อยเพียงใด หลังจากนั้นค่อยดูปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ซื้อประกันอุบัติได้คุ้มค่ามากขึ้น ได้แก่
1. เลือกซื้อประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองอย่างครอบคลุม : แผนประกันภัยควรเหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวัน หรือกิจกรรมที่ทำเป็นประจำ หากคุณมีหน้าที่การงานที่ต้องเดินทางบ่อย แนะนำให้เลือกประกันภัย PA ที่คุ้มครองขั้นสูง แต่หากคุณคือแม่บ้านที่ไม่ค่อยได้เดินทางไปไหน สามารถซื้อแผนประกันภัยส่วนบุคคลแบบทั่วไปไว้เป็นตัวช่วยที่คอยดูแลและให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุจากการทำงานบ้าน เช่น มีดบาด น้ำร้อนลวก หรือลื่นล้ม
2. เลือกซื้อประกันอุบัติเหตุจากบริษัทที่น่าเชื่อถือ : เพราะอุบัติเหตุรอช้าไม่ได้ บริษัทผู้ให้บริการประกันอุบัติเหตุที่เลือกต้องมีใจรักการบริการ เข้าถึงง่าย ติดต่อได้ทุกที่ ทุกเวลา เช่น ประกันอุบัติเหตุ ทีทีบี ที่ติดต่อง่าย แจ้งเคลมประกันออนไลน์ไวในแอป ttb touch ได้ทุกที่ ทุกเวลา
ทั้งหมดนี้ เคลียร์ชัด “ประกันอุบัติเหตุ” คือ สิ่งที่จำเป็นต้องมี เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้เราและครอบครัว หากเกิดขึ้นเรื่องไม่คาดคิด ซึ่งค่าเบี้ยประกันต่อปีก็ไม่ได้สูงมาก ถึงแม้จะมีประกันสังคมหรือสวัสดิการจากที่ทำงานอยู่แล้ว แต่อย่าชะล่าใจ เพราะความคุ้มครองอาจจำกัดไม่เพียงพอต่อการรักษาก็ได้
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS