{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2 และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ในสังกัด ภายใต้นโยบาย “Zero Tolerance : สินค้าหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตต้องเป็นศูนย์” ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามการลักลอบจำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อผลักดันแนวทางการปฏิบัติงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในด้านการเร่งรัด ปราบปราม การลักลอบจำหน่ายบุหรี่เถื่อน ซึ่งนับเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีการหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตอย่างแพร่หลาย ทั้งจากการลักลอบนำเข้าผ่านแนวชายแดน และการกระจายสินค้าสู่พื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเหตุของการจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2 ได้รับแจ้ง เบาะแสว่าจะมีการลักลอบขนส่งบุหรี่ที่ยังมิได้เสียภาษี ผ่านบริษัทขนส่งเอกชน จึงเข้าดำเนินการตรวจสอบ พัสดุต้องสงสัย ณ ศูนย์กระจายสินค้าแห่งหนึ่ง ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พบบุหรี่ซิกาแรตที่ไม่ได้เสียภาษี รวมจำนวนทั้งสิ้น 22,760 ซอง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,048,400 บาท ค่าภาษีสรรพสามิตประมาณ 1,429,328 บาท และประมาณการค่าปรับรวม 21,439,920 บาท โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดทำบันทึกการตรวจยึดของกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบเพิ่มเติม ณ สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2 พร้อมทั้งบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
แนวทางการดำเนินงานของสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2 และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ในสังกัด มีเขตความรับผิดชอบครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกทั้งสิ้น 9 จังหวัด ประกอบด้วยพื้นที่ที่มีอาณาเขตติดต่อที่ราบชายฝั่งไปจนถึงอ่าวไทย เช่น จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดสมุทรปราการ และพื้นที่ที่มีอาณาเขตแนวชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จังหวัดสระแก้ว จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด ลักษณะของการลักลอบสินค้าจึงมีทั้งในรูปแบบของการลักลอบเข้ามาทางทะเล โดยใช้เรือเป็นพาหนะในการบรรทุกขนส่งสินค้าผิดกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และการลักลอบเข้ามาตามแนวตะเข็บชายแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการบรรทุกขนส่งสินค้าผิดกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ซึ่งกรมสรรพสามิต โดยสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2 ได้ดำเนินการขับเคลื่อนภารกิจอย่างเข้มข้น ภายใต้นโยบาย “Zero Tolerance : สินค้าหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตต้องเป็นศูนย์”
สำหรับผลจากการดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าว ส่งผลให้ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 – 31 พฤษภาคม 2568) สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2 และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ ในสังกัด สามารถปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายได้รวมทั้งสิ้น 2,898 คดี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 13.07 คิดเป็นค่าปรับ 104,649,507.58 บาท และประมาณการค่าปรับ 1,803,962,689.51 บาท ทั้งนี้ คดีที่พบมากที่สุด คือ คดียาสูบ คิดเป็นร้อยละ 61.53 รองลงมาคือคดีสุรา คิดเป็นร้อยละ 27.57
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS