ไฟเขียว กิจการร่วมลงทุน PGWR บริหารพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 20 ปี คาดได้ 8,000 ล้าน

บอร์ด รฟท. อนุมัติให้กิจการร่วมลงทุน PGWR เป็นผู้ได้สิทธิ์การใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ บริเวณสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ระยะเวลา 20 ปี เพื่อยกระดับสู่ Lifestyle Destination ใจกลางเมือง คาดสร้างรายได้สะสมกว่า 8 พันล้านบาท

คณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ บอร์ด รฟท. มีมติอนุมัติผลการคัดเลือกผู้บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทย มีประกาศเชิญชวนยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์ฯ โดยให้สิทธิแก่กิจการร่วมลงทุน PGWR ซึ่งประกอบด้วย บริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท วราพัฒนาทรัพย์ จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อดำเนินกิจการเชิงพาณิชย์ภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ รวมพื้นที่ 47,675 ตารางเมตร เป็นระยะเวลา 20 ปี เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสาร ยกระดับให้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เป็น Lifestyle Destination แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร มุ่งเน้นพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางค้าปลีก ร้านอาหาร พื้นที่พักผ่อน และบริการที่ครบวงจร เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนแก่การรถไฟฯ

สำหรับแผนการส่งมอบพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้แก่ผู้ได้รับสิทธิ์จะแบ่งเป็นระยะๆ ได้แก่ ปีที่ 1 ส่งมอบพื้นที่ประมาณ 10,687 ตารางเมตร ปีที่ 2 ส่งมอบพื้นที่เพิ่มเติมอีกประมาณ 7,694 ตารางเมตร ปีที่ 3 ส่งมอบพื้นที่เพิ่มเติมอีกประมาณ 7,694 ตารางเมตร ส่วนที่เหลือประมาณ 21,600 ตารางเมตร คาดว่าจะส่งมอบภายในปีที่ 5 นับจากวันลงนามในสัญญา ซึ่งสอดคล้องกับกำหนดการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ – นครราชสีมา และรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน

ทั้งนี้ กิจการร่วมลงทุน PGWR เสนอผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum Guarantee) สำหรับปีแรกให้แก่ การรถไฟฯ เป็นจำนวนเงิน 79,906,463 บาท ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับเพิ่มจากค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้สิทธิ (ค่าเช่า) และค่าส่วนกลาง ทำให้ในปีแรก การรถไฟฯ จะได้รับผลตอบแทนรวมทั้งหมดเป็นเงิน 158,585,063 บาท ถือเป็นผลตอบแทนที่สูงกว่าสัญญาเช่าอื่น ๆ ของการรถไฟฯ ในพื้นที่ใกล้เคียง

การรถไฟฯ ยังคาดการณ์ว่า สำหรับผลตอบแทนที่จะได้รับในปีที่ 2 จะอยู่ที่ประมาณ222 ล้านบาท ปีที่ 3 ประมาณ 288 ล้านบาท และในปีที่ 5 คาดว่าจะเพิ่มเป็นประมาณ 487 ล้านบาท ซึ่งประเมินจากจำนวนพื้นที่ที่ส่งมอบ รวมทั้งอัตราค่าเช่า และผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum Guarantee) ที่จะปรับตามอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ผลตอบแทนดังกล่าวได้รวมค่าส่วนกลางที่การรถไฟฯ ปรับขึ้นร้อยละ 10 ทุกๆ 3 ปี ทำให้ตลอดอายุสัญญา 20 ปี คาดว่าการรถไฟฯ จะได้รับผลตอบแทนสะสมประมาณ 8,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ เพื่อบริหารความเสี่ยงของโครงการผู้ได้รับสิทธิต้องวางเงินหลักประกันสัญญาให้แก่การรถไฟฯ เพื่อคุ้มครองความเสียหายจากการผิดเงื่อนไขตามข้อกำหนดในสัญญา และจะคงไว้ตลอดอายุสัญญาจนกว่าจะสิ้นสุดภาระผูกพัน ขณะเดียวกัน บอร์ด รฟท. ยังมอบหมายให้การรถไฟฯ แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อกำกับและบริหารสัญญาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการอย่างเคร่งครัดด้วย ทั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการรถไฟฯ ในการบริหารจัดการทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อยกระดับสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สู่การเป็นศูนย์กลางการเดินทาง และศูนย์กลางเศรษฐกิจเชิงพาณิชย์แห่งใหม่ของประเทศอย่างแท้จริง


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment