บสย. - สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย - สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทยร่วมหารือปลุกยอดซื้อรถกระบะ ผ่านมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ”

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) นายกิตติพงษ์ บุรณศิริ รองผู้จัดการทั่วไป สายงานกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ และผู้บริหารจากสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย นำโดย นายสุวัชร์ ศุภกาญจน์เดชากุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และกลุ่มบริษัทลีสซิ่ง นำโดย นายศรัณย์ ทองธรรมชาติ ประธานกรรมการสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย และผู้แทนจากกลุ่มบริษัทลีสซิ่ง ร่วมประชุมและหารือแนวทางกระตุ้นยอดค้ำรถกระบะ ภายใต้มาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องประชุมคณะกรรมการ บสย. สำนักงานใหญ่ อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2

​นายสิทธิกร กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดโครงการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะใหม่ “บสย. SMEs PICK-UP” ภายใต้มาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” เพื่อปลดล็อกให้กับ SMEs ที่จำเป็นต้องใช้รถกระบะเพื่อประกอบอาชีพ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 โดยเป็นมาตรการภายใต้นโยบายของภาครัฐ ที่มุ่งช่วย SMEs ลดภาระทางการเงิน ด้วยสิทธิประโยชน์ ฟรี! ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก โดยรัฐบาล กระทรวงการคลังเป็นผู้ออกค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ ส่วนปีที่ 4-7 คิดค่าธรรมเนียมค้ำประกันต่ำเพียง 1.5% ต่อปี ของภาระหนี้ค้ำประกันคงเหลือในแต่ละปี พร้อมค้ำประกันนานถึง 7 ปี โดย บสย. เปิดรับคำขอค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดรับคำขอค้ำประกันภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568

​“มาตรการนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ บสย. ดำเนินโครงการ ดังนั้นช่วงเริ่มต้น 2-3 เดือนนี้ ต้องติดตามผลการใช้โครงการว่า อัตราอนุมัติการค้ำประกันสินเชื่อมีทิศทางอย่างไร โดยเฉพาะดีมานด์ของตลาด ซึ่งในสิ้นพฤษภาคมนี้ บสย. จะมีการประชุมร่วมกับทั้ง 6 ไฟแนนซ์ เพื่อติดตามผลต่อไป” นายสิทธิกร กล่าว

​นายสุวัชร์ ศุภกาญจน์เดชากุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และ นายศรัณย์ ทองธรรมชาติ ประธานกรรมการสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ได้ร่วมให้ข้อเสนอแนะ และนำเสนอในประเด็นที่ บสย. ยังไม่สามารถค้ำประกันผ่านกลุ่ม Captive Finance หรือ สถาบันการเงินที่ก่อตั้งโดยผู้ผลิตรถยนต์ได้ ซึ่งทั้งสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทยต้องการให้ปลดล็อกเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ เนื่องจากยอดขายรถกระบะส่วนมากมาจาก กลุ่ม captive finance สูงกว่า 50% ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศทางสองสมาคมต้องการขอให้กระทรวงการคลังเร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าว ซึ่งจากตัวเลขยอดขายรถกระบะในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.2568) ตลาดรถกระบะยังลดลงต่อเนื่อง โดยมียอดขายรวม 40,379 คัน หดตัวจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ถึง 13%

ดังนั้น หากปลดล็อกให้ บสย. สามารถค้ำประกันกลุ่ม captive finance ได้จะส่งผลให้สามารถช่วยผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการรถกระบะเพื่อประกอบธุรกิจ และตลาดรถกระบะกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง เนื่องจากดีมานด์ของตลาดรถกระบะยังมีอยู่ ทั้งนี้ ปัจจุบัน บสย. สามารถค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อกับสถาบันการเงิน และกลุ่มลีสซิ่งที่สถาบันการเงินถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% ตามประกาศของกระทรวงการคลัง ขณะนี้มี 7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน), ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน), ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด, บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด และ บริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment