{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
บมจ.ที คิว อาร์ (TQR) โชว์ผลงานไตรมาส 1/68 กำไรสุทธิ 33.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.20% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ มั่นใจรายได้ปี 68 โต 5-10% นิวไฮต่อเนื่อง
นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2568 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568) มีกำไรสุทธิ 33.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.20% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 30.51 ล้านบาท และมีรายได้รวม 82.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.18% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 80.69 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่
สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น มาจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) และธุรกิจนายหน้าประภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business)
“ธุรกิจประกันภัยและประกันภัยต่อเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง และมีความท้าทายตลอดเวลา โดยต้องเผชิญกับปัจจัยแวดล้อมที่ไม่แน่นอน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สงครามการค้าระหว่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ และภัยธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ แต่ด้วยการขับเคลื่อนของทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญในด้านประกันภัยและประกันภัยต่อ ประกอบกับผู้บริโภคมีความต้องการทำประกันภัยเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถทำผลงานในไตรมาสแรกของปีนี้ ทั้งรายได้และกำไรเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง” นายชนะพันธุ์กล่าว
นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโตที่ระดับ 5-10% โดยมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่ๆ ร่วมกับบริษัทประกันภัยชั้นนำ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และพร้อมเผชิญกับความเสี่ยงรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งประกันภัยต่อสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident and Health), ประกันภัยต่อไซเบอร์ (Cyber), ประกันภัยต่อความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหาร (Directors and Officers), ประกันภัยต่อการก่อการร้ายและภัยทางการเมือง (Political Violence), ประกันภัยต่อที่เกี่ยวข้องกับ ESG เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังร่วมกับบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) (TQM) มีการพัฒนาประกันภัยและประกันภัยต่อที่อยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันลูกค้ามีความต้องการทำประกันภัยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ภายหลังการเกิดเหตุแผ่นดินไหว
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ร่วมทุน 2 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท อัลฟ่าเซค จำกัด โดย TQR ถือหุ้นในสัดส่วน 30% เพื่อประกอบธุรกิจประกันภัยไซเบอร์ และบริษัท อาร์สแควร์ จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการ (Service) ในด้าน Face Recognition ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะ AI เข้ามาปรับปรุงกระบวนการทำงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเพื่อให้มีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกันนี้ ยังมองหาโอกาสการขยายธุรกิจไปในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ในรูปแบบการควบรวมกิจการ (M&A) ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของบริษัทฯ อย่างยั่งยืน ขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาโอกาสในการลงทุนที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS