{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
Hewitt Consulting (ฮิววิท คอนซัลติ้ง) บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลชั้นนำของไทย ประกาศเปิดตัวโครงการ “100 Outperforming Enterprises” อย่างเป็นทางการ ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อผลักดันองค์กรไทยให้สามารถ “Outperform” หรือก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับมาตรฐานสากล พร้อมสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้และการเติบโตอย่างยั่งยืน
นางสาวนภัส ศิริวรางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท Hewitt Consulting (ฮิววิท คอนซัลติ้ง) จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานของบริษัทว่า “เรามุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายแก่ทั้งองค์กรในประเทศไทยและภูมิภาค ด้วยแนวทางที่ผสานการใช้กลยุทธ์ทันสมัยและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถก้าวไปสู่มาตรฐานใหม่ของความเป็นเลิศได้”
ในปีนี้ Hewitt Consulting (ฮิววิท คอนซัลติ้ง) ได้ร่วมมือกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาด้านการบริหารธุรกิจชั้นนำ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้าน People, Sustainability, Digital Ability และ Strategic Foresight เปิดตัวโครงการ “100 Outperforming Enterprises” อย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมกันยกระดับศักยภาพองค์กรไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก ซึ่งโครงการนี้เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของ Hewitt Consulting (ฮิววิท คอนซัลติ้ง) ในการช่วยให้องค์กรไทยสามารถพัฒนาและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน โดยเราตั้งเป้าที่จะช่วยยกระดับศักยภาพขององค์กรชั้นนำอย่างน้อย 100 แห่งต่อปี ผ่านกระบวนการประเมินเชิงลึกและการให้ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ (Benchmark) เพื่อให้องค์กรเข้าใจจุดแข็งและจุดที่ควรปรับปรุงของตนเองได้อย่างเป็นระบบ
โครงการ “100 Outperforming Enterprises” มุ่งเน้นการพัฒนาองค์กรใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ การพัฒนาองค์กร (Organization Development), ภาวะผู้นำ (Leadership), วัฒนธรรมองค์กร (Culture) และการบริหารคน (People Management) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งจากภายในและนำไปสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล โครงการนี้ยังเปิดโอกาสให้องค์กรจากทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นภาคการเงิน เทคโนโลยี อุตสาหกรรมบริการ หรือภาคการผลิต ได้เข้าร่วมและยกระดับขีดความสามารถของตนเองผ่านกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และแนวทางที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง นอกจากนี้ โครงการยังให้ความสำคัญกับการสร้าง Ecosystem แห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านการ Recognize องค์กรที่มีผลลัพธ์โดดเด่นและส่งเสริมการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) เพื่อช่วยให้องค์กรอื่น ๆ สามารถยกระดับตนเองได้ต่อไป
ทั้งนี้ Hewitt Consulting ได้ร่วมมือกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ Sasin School of Management สถาบันการศึกษาด้านการบริหารธุรกิจชั้นนำ เพื่อร่วมกันยกระดับศักยภาพองค์กรไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก
ศาสตราจารย์ เอียน เฟนวิค (Professor Ian Fenwick) ผู้อำนวยการศศินทร์ กล่าวว่า “โครงการนี้สอดคล้องกับพันธกิจของศศินทร์ ซึ่งได้แก่ “inspire.connect.transform for a better, smarter, sustainable world” องค์กรที่ดีต้องนำด้วยจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน ลงทุนในทรัพยากรบุคคล และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง”
นางสาวนภัส ศิริวรางกูร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ โครงการนี้ยังได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ CareerVisa สังคมของคนทำงานรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยคุณภาพและศักยภาพในการเติบโต และเป็นผู้นำในการให้คำปรึกษาด้านอาชีพอันดับต้น ๆ ของไทย เพื่อเสริมสร้างโอกาสและส่งต่อความสามารถในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและองค์กรในเชิงลึกคืนสู่สังคม พร้อมทั้ง HREX.asia สังคมและแพลตฟอร์มข้อมูลของนักทรัพยากรบุคคล ที่เชื่อในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อพัฒนาองค์กร โดยนำเสนอโซลูชันครบวงจรผ่าน Ecosystem ที่สมบูรณ์แบบให้สามารถเลือกใช้งานภายใต้องค์ความรู้จากมุมมองของ HR People ระดับมืออาชีพทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างกลไกการเรียนรู้ร่วมกัน
“พวกเรามีเป้าหมายเดียวกัน คือการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อภาคธุรกิจและสังคม โดยการร่วมมือกันครั้งนี้จะช่วยให้โครงการ ‘100 Outperforming Enterprises’ มีมาตรฐานระดับสากล และสามารถสร้างคุณค่าให้แก่องค์กรไทยได้อย่างแท้จริง”
โดยโครงการ 100 Outperforming Enterprises ไม่เพียงแค่เป็นการประเมินและการให้คำปรึกษา แต่ยังใช้การวิจัยเชิงลึก (Primary Research) ที่มุ่งเน้นการใช้ Index และตัวชี้วัดมาตรฐานเดียวกัน ในการประเมินองค์กรในทุกมิติ ด้วยการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมทั้งด้านกลยุทธ์ วัฒนธรรม และประสบการณ์พนักงาน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งจากภายในองค์กรอย่างแท้จริง โครงการนี้มีแนวคิดหลักที่เน้นการสร้างความแข็งแกร่งจากภายในผ่านการประเมินการทำงานในทุกภาคส่วนขององค์กร ภายใต้แนวคิด “Strong from Within. Built to Outperform.” หรือ “แข็งแกร่งจากภายใน ก้าวไปสู่ความเป็นเลิศ” โดยการวิเคราะห์เชิงลึกจะมุ่งเน้นไปที่ 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ พนักงาน, HR, และ CEO เพื่อดูความสอดคล้องและการประสานงานภายในองค์กร
สำหรับเกณฑ์การพิจารณาองค์กรที่ “Outperform” องค์กรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการประเมินอย่างละเอียดผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ครอบคลุมทุกมิติของความเป็นเลิศ โดยเริ่มจากการวัดระดับความผูกพันของพนักงาน (Employee Engagement Score) ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรกับองค์กร และต่อยอดด้วย 9 Core Experiences หรือประสบการณ์สำคัญที่พนักงานได้รับ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการสร้างแรงจูงใจและความพึงพอใจในการทำงาน นอกจากนี้ ยังมีการประเมินผ่านเครื่องมือ People Outperform Index ซึ่งเป็นแนวทางวิเคราะห์ด้านทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบ โดยครอบคลุม 7 มิติสำคัญ การวิเคราะห์เชิงลึกในแต่ละด้านช่วยให้องค์กรเข้าใจโครงสร้างและระบบภายในของตนเองอย่างรอบด้าน พร้อมระบุโอกาสในการปรับปรุงเพื่อยกระดับศักยภาพด้านทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร
นอกจากนี้ โครงการยังให้ความสำคัญกับ Psychological Safety หรือสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความปลอดภัยทางจิตใจ ซึ่งเป็นรากฐานของวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการเติบโต การเรียนรู้ และนวัตกรรม ขณะเดียวกัน Holistic Well-being ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลในชีวิตการทำงาน โดยพิจารณาทั้งสุขภาพกาย จิตใจ และสังคมของพนักงาน และสุดท้าย องค์กรจะได้รับการประเมินในภาพรวมผ่านแนวคิด Organizational Vitality ซึ่งสะท้อนถึงความสมดุลระหว่างโครงสร้าง วัฒนธรรม การบริหารจัดการ และความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ การวิเคราะห์เชิงลึกเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรสามารถมองเห็นศักยภาพของตนเอง และวางกลยุทธ์ในการพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่ความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS