{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) เผยความสำเร็จลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 13.59% เมื่อเทียบกับปี 2564 ด้วยกลยุทธ์ “เพิ่ม-เปลี่ยน-เก็บ” พร้อมลุยต่อปี 2568 ลงทุนติดตั้งโซลาร์เซลล์ในโรงงานอีก 20.6 เมกะวัตต์ และปรับเปลี่ยนเครื่องเติมอากาศสำหรับบำบัดน้ำเสียเพื่อลดการใช้พลังงาน เพิ่มรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าในโรงงานทั่วประเทศ มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2573 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และได้ประกาศเจตนารมณ์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ทำให้ในปี 2567 บริษัทฯ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 13.59% เมื่อเทียบกับปี 2564 เป็นปีฐาน ผ่านกลยุทธ์ “เพิ่ม-เปลี่ยน-เก็บ” ได้แก่ 1) เพิ่ม – ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มผลิตภาพ 2) เปลี่ยน – มาใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำและการใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น และ 3) เก็บ – คาร์บอนทั้งจากสวนยาง การปลูกป่า และการใช้เทคโนโลยีการดักจับและการจัดเก็บคาร์บอนในกระบวนการผลิต โดยมีแผนปฏิบัติการที่สำคัญ อาทิ การเปลี่ยนรถโฟล์คลิฟท์จากน้ำมันเป็นระบบไฟฟ้า (EV Forklift) และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น
สำหรับปี 2568 บริษัทฯ มุ่งมั่นยกระดับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมจากปีก่อน ผ่านโครงการสำคัญ อาทิ 1) เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดด้วยการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ โดยบริษัทฯวางแผนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพิ่มเติมในปี 2568 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 20.6 เมกะวัตต์ (MW) จากปัจจุบันที่มีการติดตั้งในโรงงาน 8 แห่ง อาทิ มุกดาหาร ทุ่งสง (นครศรีธรรมราช) และห้วยนาง (ตรัง) รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าประมาณ 40.6 MW การขยายโครงการดังกล่าวจะช่วยลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานของบริษัทให้สูงขึ้น 2) ปรับปรุงกระบวนการผลิต ลดการใช้พลังงาน โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย เปลี่ยนระบบเครื่องเติมอากาศ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้กว่า 35% ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและช่วยให้บริษัทสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น และ 3) ส่งเสริมการใช้พาหนะไฟฟ้าลดมลพิษทางอากาศ รวมทั้งลดการปล่อยคาร์บอนในภาคขนส่ง โดยเพิ่มจำนวนรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (EV Forklift) และขยายการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ในโรงงานต่างๆ ของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และมีส่วนช่วยลดฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
“จากโครงการที่ได้ดำเนินการไปแล้วและโครงการใหม่ที่จะทยอยดำเนินการในปี 2568 ตอกย้ำการเป็น The Green Rubber Company หรือ องค์กรแห่งยางสีเขียวแบบครบวงจรอย่างยั่งยืน มุ่งมั่นก้าวสู่การเป็น Carbon Neutral Company หรือบริษัทที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 และมุ่งสู่ Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ซึ่งไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทศรีตรังในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางธรรมชาติแต่ยังเป็นการตอบสนองต่อแนวโน้มของตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของบริษัทในระยะยาว” นายวีรสิทธิ์ กล่าว
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS