โฮมโปร เร่งเครื่องปี 68 ลุยขยาย 12 สาขา-ปรับเกม Omni-Channel

โฮมโปร เผยผลประกอบการปี 67 ด้วยรายได้รวม 72,576.52 ล้านบาท บุกตลาดสู่ปี 68 ด้วยแผนการขยายสาขาในรูปแบบโฮมโปร เมกาโฮม และไฮบริด รวม 12 สาขาทั่วประเทศ เสริมศักยภาพ Omni-Channel เชื่อมโยงประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์ ขยายไลน์สินค้าใหม่กว่า 10,000 รายการ

นายรักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์ กลยุทธ์และความยั่งยืนองค์กร บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2567 ว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย โฮมโปรสามารถสร้างรายได้รวม 72,576.52 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 6,503.55 ล้านบาท ยังคงตอกย้ำความแข็งแกร่งของธุรกิจผ่านการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง

ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่บริษัทยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ควบคุมต้นทุน และบริหารพอร์ตสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ยังมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทอย่างต่อเนื่อง

และเพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ นายรักพงศ์ฯ กล่าวว่า บริษัทได้มุ่งเน้นทำการตลาดเชิงรุกผ่านโปรโมชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า การพัฒนาบริการเสริม เช่น บริการติดตั้งและให้คำปรึกษา ตลอดจนการขยายช่องทางออนไลน์ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าและกระตุ้นการเติบโตของยอดขาย โดยโฮมโปรตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ และกำไรสุทธิในปี 2568 โดยมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้า ยกระดับประสบการณ์การซื้อสินค้า และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผ่านกลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

1. ขยายสาขา และโมเดลธุรกิจใหม่ต่อเนื่อง

บริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ 12 แห่ง ครอบคลุมทั้งโฮมโปร เมกาโฮม และโมเดลไฮบริด โดยเน้นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มลูกค้าเจ้าของบ้าน ไปจนถึงกลุ่มช่างทั่วประเทศ

2. พัฒนาแพลตฟอร์ม Omni-Channel เชื่อมโยงออนไลน์และออฟไลน์

โฮมโปรจะขยายไลน์สินค้าใหม่กว่า 10,000 รายการบนแพลตฟอร์ม Market Place ครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท พร้อมพัฒนา Omni-Channel ให้สามารถเชื่อมโยงกับหน้าร้านได้อย่างไร้รอยต่อ รวมถึงขยายช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ผ่าน Live Streaming และการช้อปปิ้งแบบเรียลไทม์

3. การตลาดแบบ Personalized Marketing & พัฒนาและขยายการให้บริการ

บริษัทนำ Big Data มาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อพัฒนาโปรโมชั่นและแคมเปญที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น อีกทั้งยังมุ่งเน้นการเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ผ่านบริการในรูปแบบต่างๆ เช่น บริการปรับปรุงและซ่อมแซมบ้านแบบครบวงจร ด้วยทีมช่างโฮมโปร มือโปรประจำบ้านคุณ มากกว่า 2,600 ทีมทั่วประเทศ

4. บริหารความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก

โฮมโปรให้ความสำคัญกับการกระจายแหล่งวัตถุดิบ บริหารต้นทุนสินค้า และปรับกลยุทธ์ด้านราคาให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย และนโยบายเศรษฐกิจที่อาจส่งผลต่อธุรกิจ

5. ดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (ESG)

บริษัทให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด โดยมีโครงการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าร์เซลล์) ในสาขาต่างๆ พร้อมลดคาร์บอนฟุตพรินต์และขยะพลาสติก นอกจากนี้ ยังขับเคลื่อนโมเดล "แลกเก่าเพื่อโลกใหม่" เพื่อพัฒนาเป็นสินค้ารักษ์โลก ลดของเสีย และใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นายรักพงศ์ กล่าวสรุป ตามวิสัยทัศน์และนโยบายของผู้บริหารระดับสูงที่ท่านได้เคยให้ไว้ ถึงการดำเนินธุรกิจของโฮมโปรภายใต้กรอบความยั่งยืน คือ โฮมโปรยังคงเดินหน้าพัฒนาและปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด โดยมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมั่นคงผ่านการขยายสาขา การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งหมดนี้เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า (Better Living) และขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวสู่อนาคตอย่างแข็งแกร่ง


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment