WSOL ปี 67 ทยอยฟื้น รายได้รวม 5,382.7 ล้านบาท ปี 68 เดินหน้าปรับโครงสร้าง เสริมศักยภาพธุรกิจดันรายได้

WSOL พร้อมเดินหน้าแผนปี 68 สร้างรายได้ธุรกิจหลัก เพิ่มความสามารถทำกำไร แก้ปัญหาฐานะการเงิน-ภาระหนี้ต่อเนื่อง ปรับโครงสร้างธุรกิจ และทีมบริหารครั้งใหญ่ ประกาศตั้งบอร์ดใหม่ ดึงนายพรชัย รุจิประภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานบอร์ด ขณะที่ผลประกอบการงวดปี 2567 ทยอยฟื้น รายได้รวม 5,382.7 ล้านบาท

นายอิทธิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิว เอส โอ แอล จำกัด (มหาชน) หรือ WSOL เปิดเผยทิศทางการดำเนินงานปี 2568 บริษัทจะมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่ก่อให้เกิดรายได้ มีโอกาสเติบโต และสร้างกำไร ผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1.) B2B Solutions มุ่งเน้นให้บริการแก่องค์กรเป็นหลัก ได้แก่ Plus Tech และ SABUY Solutions 2.) B2C Solutions ให้บริการแก่ผู้บริโภคโดยตรง ได้แก่ SABUY SPEED, เติมสบายพลัส และล็อค บอกซ์ และ 3.) Financial Solutions ระบบธุรกรรมทางการเงิน ได้แก่ Love Leasing โดยบริษัทมีการแต่งตั้งทีมบริหารชุดใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และปรับขนาดองค์กรให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจปัจจุบัน เพื่อเร่งสร้างการเติบโตของรายได้ เพิ่มเงินทุนหมุนเวียน และสร้างสภาพคล่องทางการเงิน

นอกจากนี้บริษัทมีแผนการปรับโครงสร้างหนี้ ผ่านการเจรจากับเจ้าหนี้อื่นๆ อาทิ เจ้าหนี้สถาบันการเงิน เพื่อรักษากระแสเงินสดสำหรับการดำเนินธุรกิจให้มีเสถียรภาพสูงสุด และผ่านการเจรจาขายสินทรัพย์ โดยจะนำเงินที่ได้มาพัฒนากลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพ รวมถึงการมองหาพันธมิตรใหม่ๆ นำไปสู่การต่อยอดพื้นฐานของแต่ละธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงสถานะทางการเงินของ WSOL

“จากการปรับโครงสร้างบริษัท และการแต่งตั้งบอร์ดบริหารใหม่ เราเชื่อว่าบริษัทจะค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างมั่นคง ผ่านการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาลที่มีความโปร่งใส โดยที่ผ่านมาเรามุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหา ควบคู่กับการพัฒนาบริษัทให้สามารถเติบโตในระยะยาวอย่างมีคุณภาพ เพื่อต่อยอดธุรกิจผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ นอกจากนี้ยังมีแผนเดินหน้าทวงหนี้มูลกว่า 900 ล้านบาท เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในบริษัท และในส่วนของแผนการชำระดอกเบี้ยและทยอยชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้ SABUY ทั้ง 4 รุ่น หลังจากที่ได้รับการอนุมัติผ่านทุกวาระเมื่อปลายปีที่แล้ว หากการเจรจาขายสินทรัพย์ผ่านไปได้ด้วยดี บริษัทจะนำเงินส่วนนี้มาชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้เป็นลำดับต่อไป” นายอิทธิชัย กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการอย่างเร่งด่วน โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ แต่งตั้ง นายพรชัย รุจิประภา เข้ารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริษัท มีประสบการณ์ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมถึงเป็นอดีตปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และแต่งตั้ง นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง เข้ารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการตรวจสอบ มีประสบการณ์ด้านงานบริหารทั้งในภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสอดคล้องกับกลุ่มธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างดี มีผลตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากผู้มีส่วนได้เสียของบริษัททุกฝ่าย ผ่านการการแต่งตั้งคณะกรรมการ และผู้บริหารชุดใหม่ เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้ตามกลยุทธ์ที่วางเอาไว้ รวมถึงปรับปรุงนโยบายระดับบริหารและระบบควบคุมภายใน ให้มีความเหมาะสมและรัดกุมมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนดำเนินการตรวจสอบรายการการดำเนินงานย้อนหลังอย่างถ้วนถี่ และหากตรวจสอบพบการกระทำความผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เพื่อรักษาผลประโยชน์แก่ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัททุกฝ่าย

ผลประกอบการงวดปี 2567 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 5,382.7 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิรวม 6,823.6 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4/ 2567 มีขาดทุนสุทธิ 761.6 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส3/2567 ที่มีขาดทุนสุทธิ 918.4 ล้านบาท เป็นผลจากการตั้งสำรองสินทรัพย์ที่ลดลง การจำหน่ายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก และการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัท โดยบริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลง 17% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน