{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ได้เปิดตัวโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ (โครงการฯ) ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล โดยเป็นวันที่กรมบัญชีกลางได้ทำการโอนเงิน 10,000 บาท ให้แก่ผู้ได้รับสิทธิของโครงการฯ จำนวน 3,025,596 ราย
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดตัวโครงการฯ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเห็นว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้ประชาชนมีกิน มีใช้ โดยในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ โดยมีการโอนเงินจำนวน 10,000 บาท ให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการจำนวนกว่า 14.45 ล้านราย เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน อีกทั้งประชาชนบางรายก็สามารถนำเงินที่ได้รับไปใช้เป็นเงินทุนในการต่อยอดนการประกอบอาชีพได้ ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จของรัฐบาล
2. ในวันนี้เป็นการเปิดตัวโครงการฯ โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินสดจำนวน 10,000 บาท ผ่านบัญชีเงินฝากที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนให้แก่ผู้สูงอายุจำนวนประมาณ 3 ล้านราย หรือคิดเป็นการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยเป็นจำนวนประมาณ 30,000 ล้านบาท
3. นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการฯ จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ต่อยอดในการประกอบอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้ดีขึ้นได้ รวมทั้งจะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น
ภายหลังจากการกล่าวเปิดงาน นายกรัฐมนตรีได้กดยืนยันการโอนเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของการเปิดตัวโครงการฯ อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์โครงการฯ ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง และสร้างความเชื่อมั่นต่อการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของคณะรัฐมนตรีที่ได้แถลงต่อรัฐสภา
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า ประชาชนผู้ได้รับสิทธิสามารถตรวจสอบผลการจ่ายเงินได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ในวันที่ 28 มกราคม 2568 เป็นต้นไป โดยหากปรากฏผลว่าโอนเงินไม่สำเร็จ กระทรวงการคลังจะมีการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) อีกจำนวน 3 ครั้ง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ดำเนินการผูกบัญชีเงินฝากที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน และในกรณีมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนอยู่แล้ว ควรตรวจสอบกับธนาคารด้วยว่าบัญชีดังกล่าวยังคงมีสถานะปกติที่สามารถรับเงินโอนได้หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมรับเงินในรอบถัดไป ดังนี้
ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดการจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 3 แล้ว กระทรวงการคลังจะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS