RBF โชว์งบ Q3/67 รายได้ 1,083 ลบ. หนุนกำไรสุทธิ 109 ล้าน

RBF ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 โดยมีกำไรสุทธิ 108.93 ล้านบาท จากรายได้รวม 1,082.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2567

นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงินของ RBF เปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาส 3/2567 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 1,030.55 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 5.04% ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6.47% จากไตรมาสก่อนที่ 102.92 ล้านบาท โดยเป็นผลจากยอดขายในประเทศที่มีอัตราการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพิ่มขึ้น 22.54 ล้านบาท

กลุ่มธุรกิจหลักที่ส่งผลบวกต่อรายได้ของบริษัท ได้แก่ กลุ่มลูกค้ากิจการค้าปลีกขนาดใหญ่และค้าปลีกทั่วไป ที่มียอดขายเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของยอดขายในอุตสาหกรรมวัตถุแต่งกลิ่นรสและสีผสมอาหาร ซึ่งสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 36.26 ล้านบาทในไตรมาสนี้ นอกจากนี้ ยอดขายในกลุ่มลูกค้าค้าปลีกขนาดใหญ่เติบโตเพิ่มขึ้น 5.92 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีกทั่วไปเพิ่มขึ้น 5.28 ล้านบาท สะท้อนถึงการขยายตัวของตลาดภายในประเทศที่ยังคงเป็นแรงสนับสนุนหลัก

โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 RBF มีรายได้รวม 3,273.32 ล้านบาท และกำไรสุทธิรวม 383.47 ล้านบาท ตอกย้ำถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและการสร้างการเติบโตที่มั่นคง

นายสุรนาถ กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจไตรมาส 4/2567 ว่า “ธุรกิจ Food Ingredients ของ RBF ยังคงมีทิศทางการเติบโตที่ดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยบริษัทยังคงมุ่งสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก พร้อมขยายตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีฐานการตลาดในหลายประเทศ ได้แก่ เวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย ฟิลิปปินส์ จีน ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจาเปิดตลาดในประเทศรัสเซีย ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีหน้า อีกทั้งยังมีแผนเดินสายการผลิตในประเทศอินเดียเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในกลุ่มวัตถุแต่งกลิ่นและรสอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้าในตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเล็งเห็นโอกาสในการต่อยอดความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาด หลังประสบความสำเร็จในการทำตลาดต่อเนื่อง จากการจับมือกับพันธมิตรในการผลิตน้ำหวานเข้มข้น กลิ่นสละ/ครีมโซดา แบรนด์ “HELLO BOY 4EVE” รูปแบบซอง และขวด เมื่อไตรมาส 2/2567 ที่ผ่านมา ในปี 2568 บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตน้ำหวานเข้มข้นเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตเต็มกำลังได้ภายในสิ้นปี เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการนำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานะผู้นำในอุตสาหกรรม Food Ingredients อย่างยั่งยืน