ธอส.ยึดLTV ใหม่ เร่งปชช.มีบ้านได้ประโยชน์

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ พร้อมดำเนินการตามเกณฑ์ใหม่ของ ธปท. ทันที เพื่อช่วยให้ลูกค้าประชาชนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเองได้รับประโยชน์

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมดำเนินการตามเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ในการกำหนดอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan to value หรือ LTV) สำหรับการกู้ซื้อบ้านหลังแรกที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศปรับปรุงเกณฑ์ใหม่ทันทีเพราะถือเป็นการปรับปรุงที่ช่วยให้ลูกค้าประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัย เป็นของตนเองได้รับประโยชน์โดยตรง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหลักของ ธอส. ซึ่งถือเป็นผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง จะมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้นตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดสำหรับลูกค้าในแต่ละประเภทรายได้หรือสวัสดิการ อาทิ กลุ่มลูกค้าข้าราชการ และกลุ่มลูกค้าที่มีสวัสดิการหักเงินเดือนกับธนาคาร หากซื้อบ้านสัญญาที่ 1 ที่มีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท นอกจากจะได้รับวงเงินสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยสูงสุดไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน หรือ ราคาซื้อขาย หรือรายได้สุทธิของผู้กู้แล้ว ยังสามารถได้รับวงเงินสินเชื่ออีก 10% ของมูลค่าหลักประกัน(ตามความสามารถของผู้กู้) เพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับการอยู่อาศัย หรือ หากเทียบจากเกณฑ์ LTV เดิม กรณีซื้อที่อยู่อาศัยแนวสูงที่มีราคาซื้อขาย 1 ล้านบาท เดิมผู้กู้จะมีโอกาสได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 900,000 บาท แต่เกณฑ์ใหม่จะทำให้ได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุดได้ถึง 1,100,000 บาท หรือกรณีซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีราคาซื้อขาย 1 ล้านบาท เดิมผู้กู้จะมีโอกาสได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 950,000 บาท แต่เกณฑ์ใหม่จะทำให้ได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุด 1,100,000 บาทเช่นกัน

ทั้งนี้เกณฑ์ใหม่ที่ธปท.ได้ปรับปรุง ยังคงเพดาน LTV 100% แต่สามารถกู้เพิ่มได้อีก 10% ของมูลค่าหลักประกันสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการเข้าอยู่อาศัยจริง พร้อมกำหนดให้วางดาวน์น้อยลงจาก 20% เป็น 10% สำหรับการกู้ซื้อบ้านหลังแรกที่มีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนผู้ที่จำเป็นต้องมีบ้าน 2 หลัง ธปท. ได้ผ่อนเกณฑ์ให้การกู้ซื้อบ้านสัญญาที่ 2 ที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ต้องมีเงินดาวน์ 10% หากผ่อนชำระสัญญาที่ 1 มาแล้วอย่างน้อย 2 ปี จากเดิมกำหนด 3 ปี พร้อมปรับหลักเกณฑ์เงินกองทุนที่ต้องดำรงสำหรับการกู้ซื้อบ้านหลังแรกที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท และการกู้สร้างบ้านบนที่ดินปลอดภาระ เพื่อสนับสนุนให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้กู้กลุ่มดังกล่าวมากขึ้น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 20 มกราคม 2563 เป็นต้นไปนั้น

“ธอส. เชื่อว่าการปรับปรุงมาตรการ LTV ของ ธปท. ในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ที่ต้องการมีบ้านเพื่อการอยู่อาศัยจริงมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้นพร้อมกับบรรเทาภาระการวางเงินดาวน์ในการมีที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนและยังถือเป็นการสนับสนุนให้เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวได้ดีขึ้นจากการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะมีปริมาณมากยิ่งขึ้นได้ต่อไป” นายฉัตรชัย กล่าว

ธ.ก.ส. จัดแคมเปญ “เงินออมมั่งมี Chinese New Year ปี 2563”รับเทศกาลตรุษจีน

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้จัดแคมเปญ “เงินออมมั่งมี Chinese New Year ปี 2563” เพื่อส่งความสุข ความปรารถนาดีและความเป็นสิริมงคล เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ปี 2563 ให้แก่ผู้ฝากเงินกับ ธ.ก.ส. โดยจะได้รับกระปุกออมทรัพย์ “เรือสำเภาเงินทองมั่งคั่ง” บรรทุกเงินหยวนเป่า หรือ “เงินตำลึงจีน” ที่มีลักษณะเป็นแท่งเงินปลายโค้งสูงทั้งสองข้าง รูปร่างคล้ายเรือตรงกลางนูนป่อง สีทองสว่างไสว ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่ำรวยและความเป็นสิริมงคล โดยเปิดรับฝากตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 มกราคม 2563 เท่านั้น

สำหรับเงื่อนไขการรับฝาก เปิดบัญชีใหม่หรือฝากเงินเพิ่ม 20,000 บาทขึ้นไป ในบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ เงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค เงินฝากออมทรัพย์ A-Savings หรือบัญชีเงินฝากรักษาทรัพย์ และคงยอดเงินฝากในบัญชี ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 จะได้รับกระปุกออมทรัพย์ ธ.ก.ส.“เรือสำเภาเงินทองมั่งคั่ง” จำนวน 1 กระปุก จำกัดสิทธิ์ 1 บัญชี ต่อ 1 กระปุก ณ ธ.ก.ส. 388 สาขา ในพื้นที่ 67 จังหวัดทั่วประเทศ โดยสามารถสอบถามสาขาที่ร่วมกิจกรรมและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call center 02-555-0-555 หรือที่ www.baac.or.th