EXIM BANK ขาย Blue Bond สกุลบาทครั้งแรก สนับสนุนธุรกิจอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและ Blue Economy

Blue Bond นำเสนอขาย สกุลบาทครั้งแรก วงเงิน 3,000 ล้านบาท เพื่อระดมทุนสนับสนุนธุรกิจอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและ Blue Economy

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ยังคงเดินหน้าสู่บทบาท Green Development Bank เสริมสร้างระบบนิเวศของภาคการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของไทยให้ตอบโจทย์การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำตลอด Supply Chain ครอบคลุมเศรษฐกิจทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงระบบนิเวศที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำและการพัฒนาอย่างยั่งยืน EXIM BANK ได้ออกพันธบัตรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็นจำนวนรวม 11,500 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา โดย Blue Bond ที่ EXIM BANK เสนอขายวงเงินรวม 3,000 ล้านบาทได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่จนสามารถเสนอขายได้เต็มจำนวนวงเงิน มียอดจองซื้อสูงถึง 2.5 เท่าของวงเงินที่เสนอขาย การระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปส่งเสริมและสนับสนุนแก่ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน อาทิ ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวทางทะเล การประมง รวมถึงการเพาะเลี้ยงพืชและสัตว์น้ำ การจัดการและบำบัดน้ำเสีย การรีไซเคิลขยะจากทะเล และพาณิชยนาวี เป็นต้น

นอกจากนี้ EXIM BANK ยังพัฒนาเครื่องมือทางการเงินใหม่ ๆ อาทิ สินเชื่อเพื่อธุรกิจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเล (Blue Economy) ภายใต้แนวทาง Sustainability Linked Loan (SLL) ประกอบด้วยสินเชื่อหมุนเวียนและสินเชื่อระยะยาวสำหรับผู้ประกอบการทุกขนาดธุรกิจ อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 3.85% ต่อปี วงเงินอนุมัติสูงสุด 200 ล้านบาท ทั้งนี้ EXIM BANK มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนจากราว 37% ในปัจจุบัน เป็น 50% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดภายในปี 2570

“Blue Bond ครั้งนี้มิใช่เพียงเครื่องมือทางการเงิน แต่เป็นกลไกความร่วมมือและความมุ่งมั่นของ EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลัง ตลอดจนหน่วยงานพันธมิตรจากภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติจากผืนดินสู่มหาสมุทร ร่วมกันแก้ไขปัญหาโลกเดือด และสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่ขึ้นสำหรับพวกเราทุกคน” ดร.รักษ์ กล่าว

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นานาประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยตระหนักถึงความจำเป็นในการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม มีหมุดหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2608 โดยให้ความสำคัญและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมครบทุกมิติ รวมถึงทรัพยากรทางทะเลซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของสิ่งมีชีวิตและทรัพยากรที่หลากหลาย ตลอดจนเป็นแหล่งผลิตออกซิเจนสำคัญของโลก การเดินหน้าสู่เศรษฐกิจสีเขียวจึงไม่อาจมองข้ามการพัฒนาเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) ได้ เพื่อดำรงรักษาที่อยู่อาศัยของประชากรโลกกว่า 3,000 ล้านคน สร้างการจ้างงานมากถึง 820 ล้านคนในอุตสาหกรรมประมงและที่เกี่ยวเนื่อง ขณะที่ 80% ของปริมาณการค้าโลกเป็นการขนส่งทางทะเล UNCTAD จึงประเมินค่า Blue Economy ของโลกอยู่ที่ราว 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ World Economic Forum คาดการณ์ว่า โลกจะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเลและทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน (SGD ที่ 14) ได้ต้องใช้เงินลงทุนด้าน Blue Finance มากถึงราว 175,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่ในช่วงปี 2558-2562 มีเงินลงทุนจริงไม่ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี นั่นหมายถึงยังมี GAP อีกมากถึงเกือบ 165,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

ทั้งนี้จาก ADB ระบุว่า ประเทศไทยมีมูลค่าเศรษฐกิจทางทะเลและที่เกี่ยวเนื่องมากถึง 30% ของ GDP ครอบคลุมในหลายอุตสาหกรรม คิดเป็นสัดส่วนการจ้างงานถึง 26% ของการจ้างงานรวม รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนมาโดยตลอดผ่านการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การออก Blue Bond ของ EXIM BANK ในครั้งนี้นับเป็นนวัตกรรมทางการเงินสีเขียวที่ช่วยเติมเต็มเศรษฐกิจสีเขียว ผนวกกับเศรษฐกิจสีน้ำเงิน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการดูแลรักษาระบบนิเวศอย่างยั่งยืน นำไปสู่การพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งบนผืนดินและมหาสมุทรอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ประเทศไทย “IGNITE THAILAND” โดยความร่วมมือระหว่างสถาบันการเงินเพื่อพัฒนาประเทศไทยเป็น Financial Hub เพื่อความยั่งยืน


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment