{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
โรงพยาบาลในเครือรามกรุ๊ป เสริมประสิทธิภาพด้านระบบทำความสะอาดแบบเดิม จับมือ Metthier นำเทคโนโลยีขั้นสูงเสริมบริการด้วยบุคลากรแม่บ้านผู้เชี่ยวชาญ และหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ช่วยบริหารจัดการความสะอาดและอำนวยความสะดวกภายในอาคารหรือพื้นที่ทั้งหมดของโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง และป้องกันการแพร่เชื้อ พร้อมเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด 24 ชม. ยกระดับการให้บริการ Healthcare เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีแก่บุคคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่มาใช้บริการ
พลโทนายแพทย์สกล เอี่ยมตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิภาราม ภายใต้กลุ่มบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่และให้บริการทางการแพทย์ครบวงจรในประเทศไทย เปิดเผยว่า โรงพยาบาลในเครือรามกรุ๊ป 5 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลรามคำแหง โรงพยาบาลรามคำแหง 2 โรงพยาบาลวิภาราม พัฒนาการ โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร และโรงพยาบาลวิภาราม แหลมฉบัง ได้ตกลงในความร่วมมือกับทางบริษัท เมทเธียร์ จำกัด (Metthier) ในการเข้ามาดูแลการรักษาความสะอาดของโรงพยาบาล โดยทาง เมทเธียร์ เป็นผู้ประกอบกิจการซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการด้านการรักษาความสะอาดอาคารสถานที่ และได้นำเสนอการดูแลรักษาความสะอาดด้วยทีมบุคลากรแม่บ้าน ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มีความรู้ในการดูแลรักษาความสะอาดในโรงพยาบาล พร้อมกับนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้วย Smart Cleaning Robots (หุ่นยนต์ทำความสะอาดอัจฉริยะ) ที่ขับเคลื่อนด้วย Artificial Intelligence (AI) เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ เป็นการตอบโจทย์ในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาดโรงพยาบาล
พลโทนายแพทย์สกล กล่าวต่อว่า การรักษาความสะอาดเป็นเรื่องที่ทุกโรงพยาบาลให้ความสำคัญมาก และมีรายละเอียดแตกต่างจากธุรกิจอื่น ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม หรือห้างสรรพสินค้า เนื่องจากโรงพยาบาลเป็นแหล่งรวมของเชื้อโรคต่างๆ ดังนั้น นอกจากเรื่องของการดูแลทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ ภายในโรงพยาบาลแล้ว ยังต้องคำนึงถึงเรื่องของการป้องกัน และควบคุมการติดเชื้อ ลดการแพร่กระจายเชื้อโรคในโรงพยาบาล การปนเปื้อนต่างๆ เรื่องความสะอาดจึงเป็นมาตรการที่สำคัญในการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล และเป็นเครื่องชี้วัดอย่างหนึ่งของมาตรฐานในการดูแลรักษาคุณภาพการบริการของโรงพยาบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มความปลอดภัยให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย และผู้ที่มาใช้บริการในโรงพยาบาล การทำความสะอาดจำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้ในการป้องกันการแพร่กระจายของโรคและความชำนาญในการทำความสะอาดเป็นพิเศษ ยกตัวอย่างเช่น หากเราพบเลือดหยดบนพื้นในสถานที่อื่น เราอาจจะนำผ้ามาเช็ดทันที แต่พอเกิดขึ้นในโรงพยาบาล เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะหากเรานำผ้าผืนเดียวกันนั้นไปเช็ดบริเวณอื่นต่อ อาจจะทำให้เชื้อโรคกระจายเป็นวงกว้างได้ ดังนั้นเราจึงต้องฆ่าเชื้อก่อน แล้วจึงเช็ดหยดเลือดนั้นได้ ทางบริษัทที่ให้บริการทำความสะอาดในโรงพยาบาลจึงจำเป็นต้องฝึกฝนพนักงานอย่างเข้มงวดตามข้อกำหนดของกรมควบคุมโรค ทั้งในเรื่องของวิธีในการทำความสะอาดที่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์ต่างๆ ต้องมีความรู้ในเรื่องของการป้องกันตัวเอง การกำจัดเชื้อโรคไม่ให้แพร่กระจาย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรค เป็นต้น
นายขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด (Metthier) ผู้ดำเนินธุรกิจการให้บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ (Smart Facility Management) แบบครบวงจร กล่าวว่า ธุรกิจโรงพยาบาลถือเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยรายงานของศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี คาดว่าธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนจะมีรายได้รวมแตะ 3.22 แสนล้านบาทในปี 2567 ขยายตัว 4% จากปี 2566 ที่มีรายได้รวม 3.14 แสนล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่คาดหวังบริการคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม กลุ่มโรงพยาบาลเอกชนจึงเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงและจำเป็นต้องเร่งปรับตัวพัฒนาการให้บริการในทุกด้าน รวมถึงมองหาเทคโนโลยีชั้นสูงที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ให้บริการการบริหารจัดการอาคารที่มาพร้อมเทคโนโลยีอย่าง Metthier ตอบโจทย์ความต้องการและเจาะกลุ่มลูกค้าในธุรกิจนี้ได้อย่างรวดเร็ว
“Metthier ได้ยกระดับการทำความสะอาดและการอำนวยความสะดวกภายในพื้นที่โรงพยาบาล เพื่อให้ผู้รับบริการมั่นใจว่าทุกอาคารภายในโรงพยาบาล และสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Metthier มีสภาพแวดล้อมที่ดีมีความสะอาดอยู่เสมอ ด้วยทีมบุคลากรแม่บ้านที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการดูแลทำความสะอาดโรงพยาบาล ที่ได้รับการอบรมโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ในการทำความสะอาดและให้บริการกับโรงพยาบาลหลายสิบปี มาช่วยเพิ่มศักยภาพในการดูแลรักษาความสะอาดที่ถูกต้องตามมาตรฐาน พร้อมหุ่นยนต์ทำความสะอาด ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ใช้ LiDAR (Light Detection and Ranging System) ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ ทำให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมติดตามการทำงานผ่านแดชบอร์ดได้แบบเรียลไทม์ ใช้ได้กับพื้นที่หลากหลายขนาดตั้งแต่ 100 ตารางเมตร หรือจนถึงพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 4,000 ตารางเมตร เป็นการผสานการทำงานด้วยคนพร้อมกับเทคโนโลยี เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพในการบริการที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าของเรา” นายขยล กล่าว
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS