orbix ตั้งเป้าปี 67 รายได้เติบโต 6 เท่า ชูกลยุทธ์ Easy & Trustworthy

orbix ชูกลยุทธ์สู่การพัฒนาประสบการณ์ในการใช้งานที่ง่าย (Easy) เพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในการให้บริการ (Trustworthy) พร้อมเป็นผู้นำริเริ่มกำหนดแนวทางในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสในการดำเนินงาน เน้นขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ยกระดับมาตรฐานทั้งอุตสาหกรรมในการดูแลคุ้มครองนักลงทุน (Investor Protection) ตั้งเป้าปี 67 รายได้เติบโต 6 เท่า

นายชาญวิทย์ รุ่งเรืองลดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่ ออร์บิกซ์ (orbix) แพลตฟอร์มกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2566 เป็นต้นมา ด้วยแนวคิด “สู่ประสบการณ์ใหม่ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล” บริษัทฯ ได้เดินหน้าพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์หลักของ orbix คือ ส่งมอบประสบการณ์ในการใช้งานที่ง่าย (Easy) และเพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในการให้บริการ (Trustworthy)

ภายใต้กลยุทธ์หลักดังกล่าว จึงเกิดการพัฒนาฟีเจอร์ของ orbix ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนโดยเฉพาะ พร้อมทีมให้บริการช่วยเหลือลูกค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยจุดเด่น 3 ด้าน ได้แก่ จุดเด่นที่ 1.การใช้งานง่ายในเรื่องซื้อ-ขาย-โอนเหรียญ รวมทั้งการสมัครใช้งานได้ด้วยตนเอง สามารถเลือกวิธีการยืนยันตัวตนได้ 2 แบบ คือ การยืนยันตัวตนผ่าน NDID สำหรับลูกค้าทั่วไป และการยืนยันตัวตนบน K+ สำหรับลูกค้าธนาคารกสิกรไทย

จุดเด่นที่ 2 ฟีเจอร์ Wallet Lock ที่มีระบบการล็อกกระเป๋าสองชั้น ลูกค้าสามารถตั้งค่าเปิดปิด Wallet Lock ได้ด้วยตนเอง

จุดเด่นที่ 3 ฟีเจอร์ที่เปรียบเสมือนเครื่องมือและข้อมูลที่ช่วยในการลงทุน ได้แก่ Price Alert ตั้งเตือนราคาที่ใช่ ไม่ต้องเฝ้าจอ ไม่พลาดทุกโอกาสการซื้อขาย โดยสามารถเลือกเหรียญที่ต้องการให้แจ้งเตือนได้ด้วยตนเอง

นอกจากนี้ จะมีการเปิดตัวฟีเจอร์เด่นอีกหนึ่งรายการที่เชื่อว่าจะตอบโจทย์นักลงทุนสายเทรดเหรียญ คือ orbix Balance ระบบช่วยคำนวณต้นทุนเหรียญแบบอัตโนมัติ ทำให้รู้กำไรขาดทุนทุกเหรียญ โดยไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ ซึ่งจะพร้อมให้บริการได้ภายในปี 2567 นี้

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2567 เป็นต้นมา มีปัจจัยเชิงบวกหลายประการ ที่ส่งผลต่อแนวโน้มตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก ได้แก่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้อนุมัติ Bitcoin ETF ทั้งสิ้น 11 กอง มูลค่ารวมประมาณ 100,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันไหลเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น อีกทั้งในเดือนเมษายนนี้ ก็จะมีเหตุการ์สำคัญคือ Bitcoin Halving คือ อัตราการเกิดของ Bitcoin ใหม่ ลดลงครึ่งหนึ่งในทุก ๆ 4 ปี รวมถึงความเป็นไปได้ที่ ก.ล.ต. สหรัฐ จะอนุมัติ Ethereum ETF ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ สำหรับประเทศไทยนั้น ภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแลมีมาตรการและนโยบายที่ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลของภูมิภาค (Digital Asset Hub) อาทิ การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Dealer) ที่ได้รับใบอนุญาตในประเทศไทย นอกจากนี้ คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบปรับหลักเกณฑ์ให้นักลงทุนรายใหญ่พิเศษและนักลงทุนสถาบัน สามารถลงทุนใน Bitcoin ETF ผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนได้ ปัจจัยบวกต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นแรงส่งให้ราคาของ Bitcoin ขึ้นสู่ราคาสูงสุดใหม่ที่ $73,000 หรือ 2.6 ล้านบาท ดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ รวมถึงเม็ดเงินลงทุนใหม่ ๆ เข้ามาสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี เมื่อมีนักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล กลไกการกำกับดูแลและมาตรการคุ้มครองนักลงทุนที่เพียงพอเหมาะสมจึงยิ่งมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกัน orbix เล็งเห็นความสำคัญในเรื่อง Investor Protection จึงริเริ่มกำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ในประเด็นดังกล่าว ได้แก่

1.การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสในการดำเนินงาน (Transparency) orbix ให้ความสำคัญและจัดให้มีการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินการของบริษัทฯ ตามที่หน่วยงานกำกับกำหนด รวมถึงมีการจัดทำรายงาน Proof of Reserve เป็นรายเดือน เพื่อสร้างความมั่นใจและความโปร่งใสให้กับนักลงทุน

2.การคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่รัดกุม (Prudent Product Selection) orbix มีกระบวนการคัดเลือกเหรียญตามเกณฑ์ ก.ล.ต. โดย orbix มีแผนในการเพิ่มเหรียญใหม่ๆ ที่มีคุณภาพเข้าสู่กระดานซื้อขาย (List) เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุน แต่ในขณะเดียวกันก็มีการทบทวนคุณสมบัติของเหรียญในกระดานซื้อ ขายอย่างสม่ำเสมอ หากเหรียญใดไม่ผ่านเกณฑ์ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อนักลงทุนก็จะมีการพิจารณานำออกจากกระดาน (Delist) เพื่อลดความเสี่ยงให้กับนักลงทุน

3.การให้ความรู้แก่นักลงทุน (Investor Education) orbix เชื่อว่า การเสริมสร้างความรู้ให้กับนักลงทุนเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญ โดย orbix ได้เริ่มสร้างเสริมความรู้ผ่านรูปแบบ Gamification ซึ่งเป็นแนวทางที่เข้าถึงนักลงทุนได้ง่าย โดยให้ลูกค้าทำแบบทดสอบเพื่อให้นักลงทุนเข้าใจสไตล์การลงทุนของตนเอง พร้อมรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่ทาง orbix ได้จัดเตรียมไว้ตามสไตล์การลงทุน

โดยแบบทดสอบดังกล่าว ถูกออกแบบภายใต้ธีม The Capital of Kryptonian ซึ่งเป็นศูนย์รวมของเหล่านักลงทุนหลากหลายสไตล์ ได้แก่ กลุ่ม Professional Trader คือ นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญในการเทรด กลุ่ม Risk Taker คือ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้เน้นรับผลตอบแทนสูงกลุ่ม Wagon Jumper คือ นักลงทุนที่เทรดตามกระแสไม่ตกเทรนด์ และกลุ่ม Crypto Evangelist คือ นักลงทุนสายลงทุนระยะยาวที่มีความเชื่อมั่นในคริปโต ผู้ที่ได้ทำแบบทดสอบแล้ว จะได้ทราบสไตล์การลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง พร้อมทั้งได้รับรูป Profile ที่แตกต่างกันไปตามสไตล์การลงทุนกว่า 32 รูปแบบ ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบจาก 4 ศิลปิน NFT ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ

ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถแนะนำคนรู้จักรอบ ๆ ตัวที่สนใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่าน Kryptonian Referral Program โดยผู้แนะนำและผู้ถูกแนะนำ จะได้รับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมจากการซื้อขายดิจิทัลโทเคนตามเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด และในเร็ว ๆ นี้ ทาง orbix เตรียมเปิดตัว OBX reward point เพื่อให้ชาว Kryptonian หรือผู้ที่สนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลจะได้สะสม Point จากกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อนำมาแลกรับสิทธิพิเศษและของสมนาคุณหลากหลายรูปแบบได้

นอกจากนี้ orbix ได้จัดเตรียมแคมเปญสุดพิเศษ 2 ต่อให้ผู้ที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ orbix “The Capital of Kryptonian” ได้แก่ ต่อที่ 1: แคมเปญ Welcome to orbix “ The Capital of Kryptonian” สำหรับลูกค้าใหม่ที่สมัครและยืนยันตัวตนกับ orbix สำเร็จ รับ Cash Back มูลค่า 200 บาท (จำนวนจำกัด 1,000 สิทธิ์ ระยะเวลากิจกรรมตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. – 11 เม.ย. 67) และ ต่อที่ 2: แคมเปญ Deposit Bonus เมื่อทำการยืนยันตัวตนกับ orbix สำเร็จแล้ว เพียงโอนเงินเข้ามาที่ บัญชีซื้อขายที่เปิดไว้กับ orbix ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ สามารถรับ cash back เพิ่มสูงสุดถึง 500 บาท (จำนวนจำกัด 1,500 สิทธิ์ ระยะเวลากิจกรรม 21 มี.ค. – 20 พ.ค. 67) สามารถศึกษาเงื่อนไข และรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ orbix trade : https://www.orbixtrade.com/th/blog/category/campaign

นายชาญวิทย์ กล่าวตอนท้ายว่า ในปี 2567 นี้ บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด ภายใต้บริษัท ยูนิต้า แคปิทัล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกในกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย ตั้งเป้าขยายฐานผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม orbix เพิ่มจำนวนผู้ใช้งานที่เป็นลูกค้าใหม่ 10-15% รวมทั้งมุ่งเน้นการทำตลาดกับลูกค้าเดิมกว่า 500,000 ราย ให้กลับมาใช้งาน โดยมีเป้าหมายทำให้ Daily Active User เพิ่มขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2566 ในช่วงก่อนการเข้าซื้อกิจการ และตั้งเป้าหมายด้านรายได้ในปี 2567 เติบโต 6 เท่า เทียบปี 2566


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment