{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
COM7 เผยปี 67 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% รับกำลังซื้อทยอยฟื้นตัว การเปิดตัวสินค้าใหม่กระตุ้นตลาด รวมทั้ง โฟกัสแพลตฟอร์มออนไลน์ และสินค้า House Brand ควบคู่มองหาโอกาสในการขยายธุรกิจค้าปลีกเพิ่มเติม ส่วนผลงานปี 66 ทำรายได้ 69,559.5 ล้านบาท มีกำไรส่วนใหญ่ของบริษัทฯ เท่ากับ 2,857.2 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.70 บาท/หุ้น
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า COM7 ตั้งเป้า ปี 2567 รายได้เติบโต 10% จากปีก่อน จากการจัดทัพสินค้าไอที เทคโนโลยี ควบคู่การบริการอย่างครบวงจร พร้อมเดินหน้านำสินค้าตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค รับสถานการณ์เศรษฐกิจและกำลังซื้อฟื้นตัว รวมทั้ง การบริหารจัดการควบคุมสินค้าคงเหลือ (Inventory) การตั้งสำรองลดลง และต้นทุนดอกเบี้ยที่คาดว่าจะลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ ธุรกิจที่เข้าไปลงทุนในปี 2566 ยังไม่ส่งผลกำไรกลับมาตามคาด แต่มองว่าจะเริ่มเห็นภาพชัด และสนับสนุน COM7 ให้มีฐานกำไรที่แข็งแกร่งในปีนี้ได้
นอกจากนี้ COM7 มองกลุ่มสมาร์ทโฟนบริษัทฯ ทำได้ดี มีสัดส่วนยอดขายในปี 2566 ประมาณ 60% และเติบโตขึ้นสวนทิศทางการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศ ขณะที่ แนวโน้มไตรมาส 1/2567 มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ และได้รับอานิสงส์มาตรการ Easy E-Receipt สนับสนุนกำลังซื้อในช่วงโค้งแรกของปี รวมทั้ง มุ่งเน้นพัฒนาช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มยอดขาย
สำหรับธุรกิจ ADEPT ที่ประกอบกิจการค้าส่ง ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้ยกเลิกการค้าส่งสินค้าแบรนด์ Realme และได้เพิ่มเติมพันธมิตรรายใหม่อย่างแบรนด์ Infinix Tecno และ Benco เข้ามาเพิ่มเติม และ ล่าสุดในปี 2567 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว (Sole Distributor) ให้แก่แบรนด์ TCL ในการขายส่งสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต และยังมองเป็นโอกาสเพิ่มสินค้าใหม่ผ่านร้านสาขาของบริษัท เพื่อสร้างรายได้กลับมาเพิ่มขึ้น
ด้านช่องทางจำหน่าย ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ในปี 2567 อีกประมาณ 150 สาขา สะท้อนธุรกิจยังไปได้ดี แม้ภาพรวมตลาดไอทีในปีที่ผ่านมาจะดูไม่ดีนัก แต่ปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัว โดยจะเปิดทั้งในศูนย์การค้าและโฟกัสรูปแบบ Standalone มากขึ้น เนื่องจากการสั่งสมประสบการณ์และนำ Key Success ของการขยายแบบ Standalone มาปรับใช้ ทำให้มั่นใจปี 2567 จะสามารถขยายการเติบโตได้อย่างคุ้มทุนและได้ผลตอบแทนที่เร็วขึ้น จากสิ้นปี 2566 บริษัทฯ มีจำนวนสาขาภายใต้การบริหารทั้งสิ้น 1,356 สาขา เพิ่มขึ้นจากปี 2565 194 สาขา โดยเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาของบริษัทฯจำนวน 79 สาขา และจากการเข้าซื้อสินทรัพย์กิจการ BebePhone จำนวน 115 สาขา (ปี 2565 มีจำนวนสาขารวม 1,162 สาขา)
สำหรับร้าน BeBePhone ที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนในปี 2566 เพื่อบุกสินค้ากลุ่ม Accessories แม้ยังมีผลงานไม่ดีนัก เนื่องจากในปีที่แล้วมีการบริหารจัดการและการวางระบบเพื่อสร้างความพร้อมในการเติบโต มองว่าในปีนี้ BeBePhone จะเริ่มสร้างรายได้และกำไรที่ดีกลับมา โดยวางกลยุทธ์นำสินค้า House Brand จัดจำหน่ายผ่านร้านสาขา
พร้อมจับตลาดไอโฟนมือสอง ภายใต้แบรนด์ BaNANA SURE ในปีที่ผ่านมาได้ทดลองเปิดรูปแบบ Shop in Shop ภายในร้าน BaNANA จำนวน 6 สาขา ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี คาดปีนี้จะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายอีกประมาณ 50 สาขา ตลาดโทรศัพท์มือถือมือสองในประเทศมีเครื่องเยอะมากจึงมองเป็นโอกาส สำหรับธุรกิจประกันภัยสินค้าไอที ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ภายใต้ชื่อ iCare Insurance มีกำไรปี 2566 ไม่มากนัก จากการทยอยรับรู้รายได้ตามอายุสัญญา แต่จะเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้และปีถัดๆไป จากผลตอบรับของลูกค้าที่ซื้อประกันควบคู่สินค้าเพิ่มมากขึ้น
รวมทั้ง ความคืบหน้าธุรกิจร้านขายยาภายใต้แบรนด์ Dr.Pharma ยอดขายต่อสาขายังทำได้ดี แต่ยอมรับว่าต้นทุนยังสูง ซึ่งเราจะบริหารจัดการในปีนี้ให้ดีขึ้น และร้านอาหารสัตว์เลี้ยงในชื่อแบรนด์ Pet Paw วางกลยุทธ์โดยเน้นลูกค้าแพลตฟอร์ม Online คาดว่าผลการดำเนินงานจะดีกว่าในปีที่ผ่านมา
ด้านความคืบหน้าในการเข้าลงทุนร่วมในบริษัท โกลด์ อินทิเกรท จำกัด โดยถือหุ้นในสัดส่วน 40% เพื่อประกอบกิจการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Aion ในปี 2566 เปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้าแล้ว 5 สาขา ส่งมอบแล้วประมาณ 2,000 คัน
อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ COM7 ได้เข้าซื้อหุ้น บริษัท ดับเบิ้ลเซเว่น จำกัด หรือ DOU7 (บริษัทย่อยของบริษัท) ในสัดส่วน 40% จากบริษัท สบาย ฟูลฟิลเมนท์ จำกัด หรือ SBFFM (บริษัทย่อยของ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY) ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ ใน DOU7 เพิ่มขึ้น จากประมาณ 60% เป็น 100% ของทุนจดทะเบียนของ DOU7 ดังนั้นในปี 2567 บริษัทฯ จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก DOU7 100%
ขณะที่ ผลประกอบการปี 2566 ได้รับผลกระทบจากการชะลอการใช้จ่ายของผู้บริโภคตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสิ้นปีซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วง High Season ของบริษัทฯ รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรส่วนใหญ่ของบริษัทฯ เท่ากับ 2,857.2 ล้านบาท ลดลง 5.9% โดยรายได้จากการขายและการให้บริการ เท่ากับ 69,559.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการเปิดตัวสินค้าใหม่กลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟนที่มีเทคโนโลยีน่าสนใจมาก โดยภาพรวมการเติบโตของรายได้สาขาเดิมในปี 2566 (Same Store Sales Growth) เติบโตเพิ่มขึ้น 7.0% (ไม่นำสาขาปิดปรับปรุงที่จำนวนวันขายไม่เต็มปีมาคำนวณ)
เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจําปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท กําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 8 มีนาคม 2567 (Record Date) และกําหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS