“สุริยะ” สั่งทุกหน่วยงานคมนาคม คค. เตรียมพร้อมรับปีใหม่ 2567

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกปลอดภัย รองรับการเดินทางและกำหนดมาตรการเป็นของขวัญให้กับประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ในการประชุมเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกปลอดภัย ข่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 โดยมี นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องประชุมคมนาคม

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน จึงคาดการณ์ว่าจะมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยว หรือทำบุญด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลและใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นจำนวนมาก ด้วยความห่วงใยจึงได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่ออำนวยความสะดวกและกำกับดูแลความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งในระบบขนส่งสาธารณะและโครงข่ายถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบทั่วประเทศ พร้อมทั้งสั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดทำแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 - 4 มกราคม 2567 รวม 7 วัน โดยเน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ บูรณาการขับเคลื่อนแผนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เพื่อให้พี่น้องประชาชน “เดินทางทั่วไทย คมนาคม สะดวก ปลอดภัย ใส่ใจให้บริการประชาชน” คลอบคลุมในทุกมิติ ดังนี้

มิติอำนวยความสะดวกในการเดินทาง

สนข. คาดการณ์ว่าในช่วง 7 วันของเทศกาลปีใหม่ 2567 จะมีปริมาณจราจรขาเข้าและออกกรุงเทพฯ บนถนนทางหลวง 5 แนวสายทาง (Corridor) เพื่อไปยังภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ โดยมีการจราจรบนทางหลวงสายหลักและทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) รวม 6.96 ล้านคัน และบนทางพิเศษ รวม 10.68 ล้านคัน ดังนั้น เพื่อบริหารการจราจรให้เกิดความคล่องตัว

กระทรวงคมนาคมจึงมีการรณรงค์ขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทางล่วงหน้า เพื่อกระจายการเดินทางและเหลื่อมเวลาการเดินทางในเส้นทางเข้า - ออกกรุงเทพฯ โดยขอความร่วมมือให้กลุ่มเดินทางใกล้ (ระยะทาง 200 - 300 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ) เดินทางออกหลังในวันที่ 29 ธันวาคม 2566 และเดินทางกลับเข้าก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 โดยเลี่ยงการเดินทางช่วงที่คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณการเดินทางสูง สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะขอให้วางแผนการเดินทางโดยสามารถจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์

นอกจากนี้ คาดว่าจะมีปริมาณการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ รวม 14.1 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากปีที่ผ่านมา และการเดินทางระหว่างจังหวัดรวม 1.8 ล้านคน-เที่ยว ลดลงร้อยละ 3 จากปีที่ผ่านมา โดยการเดินทางในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นรถไฟฟ้าและรถโดยสารสาธารณะ และการเดินทางระหว่างจังหวัดส่วนใหญ่เป็นเครื่องบิน รถไฟ และรถโดยสารสาธารณะ จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมระบบขนส่งสาธารณะทางบก ราง น้ำ และอากาศ รวมถึงการเชื่อมต่อการเดินทางที่สถานีรถโดยสาร ท่าเรือ และท่าอากาศยาน เพื่อให้บริการแก่พี่น้องประชาชนอย่างเพียงพอและเป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างสะดวกและปลอดภัยมากที่สุด

พี่น้องประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทาง และช่องทางบริการให้ข้อมูลข่าวสารและรับเรื่องร้องเรียน และจุดบริการประชาชนผ่านศูนย์ปลอดภัยคมนาคม สายด่วน 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ข้อมูลการเดินทาง รายงานอุบัติเหตุรวมทั้งรายงานสถานการณ์กรณีฉุกเฉิน และ Application สายด่วน และ Website ของหน่วยงาน เพื่อบริการข้อมูลการเดินทาง แจ้งแนวทางให้บริการของหน่วยงานศูนย์ปฏิบัติการรายหน่วยงานเพื่อการกำกับดูแลและสั่งการ อาทิ ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารสาธารณะของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) รับเรื่องร้องเรียนจากการใช้บริการขนส่งสาธารณะสายด่วน 1584 ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สายด่วน 1690 จุดรับเรื่องร้องเรียน ณ หน่วยประชาสัมพันธ์ บริเวณสถานีขนส่ง ของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) สายด่วน 1508ศูนย์ควบคุมการเดินเรือและศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางน้ำของกรมเจ้าท่า (จท.) สายด่วน 1199 ศูนย์อำนวยการสำนักทางหลวง ศูนย์ปฏิบัติการแขวงฯ สำนักงานบำรุงทางฯ และสำนักบริหารบำรุงทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองของกรมทางหลวง (ทล.) สายด่วน 1586

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า กระทรวงคมนาคมได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการจราจรบนเส้นทางถนนสายหลักและสายรองที่มีการจราจรหนาแน่นติดขัด อาทิ ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้เส้นทางรอง หรือเส้นทางเลี่ยงเพื่อลดปัญหาการติดขัดของจราจร เช่น เส้นทางที่จะไปภาคอีสาน สามารถใช้ ทล.304 (ฉะเชิงเทรา - กบินทร์บุรี) มอเตอร์เวย์หมายเลข 6 (ปากช่อง - สีคิ้ว - ขามทะเลสอ) ส่วนเส้นทางที่จะไปภาคเหนือสามารถใช้ ทล.340 (บางบัวทอง - ชัยนาท) และเส้นทางที่จะไปภาคตะวันออกสามารถใช้ ทล.3 (สุขุมวิท) ทล.34 (บางนา - ตราด) เป็นเส้นทางเลี่ยงได้ พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีโครงการก่อสร้างในเส้นทางต่าง ๆ จะต้องคืนพื้นผิวจราจรและจัดการบริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้างให้มีความปลอดภัย รวมทั้งห้ามรถบรรทุก 10 ล้อ วิ่งในเส้นทางหลัก ตลอดจนขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้า หลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อบรรเทาการจราจรและลดความเสี่ยงในเกิดอุบัติเหตุด้วย

มิติความปลอดภัยในการเดินทาง

- กำชับให้หน่วยงานสังกัดตรวจสอบ ปรับปรุง และจัดอุปกรณ์ความปลอดภัยบริเวณจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และรณรงค์สร้างความตระหนักรู้และขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย รักษาวินัยจราจร และระมัดระวังเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทาง โดยเน้นการลดพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่ “ไม่ขับเร็ว - คาดเข็มขัดนิรภัย - สวมหมวกนิรภัย - ดื่มไม่ขับ - ง่วงไม่ขับ - ไม่ขับรถย้อนศร” รวมถึงการสวมเสื้อชูชีพทุกครั้งที่สัญจรทางน้ำ และเพิ่มความระมัดระวังเมื่อเดินทางผ่านจุดเสี่ยง เช่น บริเวณจุดตัดรถไฟ เป็นต้น

- กำกับดูแลและบริหารจัดการให้เกิดความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด อาทิ ตรวจความพร้อมและมาตรฐานความปลอดภัยของพนักงานขับขี่ ยานพาหนะ และสถานีขนส่ง ทั้งทางบก ราง น้ำ และอากาศ และการนำเทคโนโลยี เช่น กล้อง CCTV ระบบ GPS มาช่วยกำกับดูแลความปลอดภัยทางถนน นำระบบ AIS/VMS มาช่วยกำกับดูแลความปลอดภัยทางน้ำ

- บูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทยเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางในระดับท้องถิ่น อาทิ การรณรงค์ให้ชุมชนในพื้นที่ดูแลซึ่งกันและกัน การเฝ้าระวังจุดตัดถนนกับรถไฟ การดูแลจุดเสี่ยงและการตั้งจุดตรวจบริเวณชุมชน

นายสุริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้เป็นของขวัญปีใหม่ 2557 แก่พี่น้องประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมร่วมกันให้บริการพิเศษแก่พี่น้องประชาชน ประกอบด้วย

- ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง ได้แก่ มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 (กรุงเทพฯ - เมืองพัทยา) และมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 (สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ถนนกาญจนาภิเษก ตอนบางปะอิน - บางพลี และตอนพระประแดง - บางแค ช่วงพระประแดง - ต่างระดับบางขุนเทียน) โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2566 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 3 มกราคม 2567 เวลา 24.00 น. เป็นเวลา 7 วัน

- ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์) โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2566 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 3 มกราคม 2567 เวลา 24.00 น. เป็นเวลา 7 วัน

- ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษอุดรรัถยา โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2566 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 1 มกราคม 2567 เวลา 24.00 น. เป็นเวลา 2 วัน

- เปิดใช้มอเตอร์เวย์หมายเลข 6 จาก “ปากช่อง - เลี่ยงเมืองนครราชสีมา” เปิดให้บริการ 4 ช่องจราจร (ไป - กลับ) ระยะทาง 77.493 กิโลเมตร เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อเท่านั้น และมีจุดบริการห้องน้ำ 1 จุด คือ ช่วงปากช่อง - สีคิ้ว กม. ที่ 147 ทั้งทิศทางขาเข้าและขาออก

- เปิดให้ทดลองวิ่งฟรีบนมอเตอร์เวย์หมายเลข 81 (บางใหญ่ - กาญจนบุรี) ช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก - ด่านกาญจนบุรี ระยะทาง 50 กิโลเมตร


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment