“แมกซ์ โซลูชัน” จับมือ “กรุงไทย” เพิ่มอิสระกิน ช้อป ใช้พอยท์แทนเงินสดผ่าน Max Me Wallet

แมกซ์ โซลูชัน และ ธนาคารกรุงไทย เชื่อมโยงบริการธุรกรรมบนแพลตฟอร์มให้สมบูรณ์และไร้รอยต่อ หวังเติมเต็มความสุขช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ กิน ช้อป ใช้พอยท์จ่ายแทนเงินสด สร้างเม็ดเงินสะพัดสู่ร้านค้าถุงเงินทั้งระบบ พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ววันนี้ ที่ Max Me Application

คุณพร้อมศักดิ์ จรัญญากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด บริษัทในเครือพีทีจี เปิดเผยว่า ในปี 2566 เรามีฐานสมาชิก Max Card รวมถึง 21 ล้านรายทั่วประเทศ ซึ่งภายหลังจากเปิดตัวแอปพลิเคชัน Max Me เพื่อให้สมาชิกได้รับประสบการณ์ดีๆ ด้วยสิทธิประโยชน์เหนือระดับกว่าใครได้สะดวกและง่ายดายขึ้นนั้น เราได้รับกระแสตอบรับที่ดีและความพึงพอใจจากลูกค้ามาโดยตลอด ทำให้ปัจจุบัน Max Me กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์กิน เที่ยว ช้อปของผู้ใช้บริการสถานีบริการน้ำมันพีทีทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น รับส่วนลดพิเศษจากร้านค้าพันธมิตรชั้นนำกว่า 1,000 แห่ง ตลอดจนแลกคะแนนสะสม และยังสามารถนำคะแนนสะสมใช้จ่ายแทนเงินสดผ่าน Max Me Wallet ได้อีกด้วย

และเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้า Max Me Wallet รวมถึงต้อนรับเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ทุกคนจะได้จับจ่ายซื้อสินค้า Max Me จึงร่วมกับธนาคารกรุงไทย ในโครงการพอยท์เพย์ (PointPay) เติมเต็มความสุขของคนมีพอยท์ ได้นำคะแนนสะสมมาใช้จ่ายแทนเงินสดเลือกซื้อสินค้า อาหารและเครื่องดื่ม จากร้านค้าที่อยู่บนแพลตฟอร์มแอปถุงเงิน โดยแมกซ์พอยท์ 10 แต้มมีมูลค่า 1 บาท

คุณพร้อมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ยิ่งกว่านั้นความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนถึงความพร้อมในการสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในปี 2567 ด้วยความตั้งใจจริงและไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาโซลูชันการให้บริการ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์และดีลดีๆ แก่สมาชิก ตลอดจนมอบบริการทางการเงินดิจิทัลผ่าน Max Me Wallet ให้สามารถทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มได้อย่างสมบูรณ์ ครบครันแบบไร้รอยต่อ เพื่อทำให้แอปพลิเคชัน Max Me เป็นแอปสดใหม่ที่ทุกคนต้องมีในทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตอย่างแท้จริง

ด้านคุณธวัชชัย ชีวานนท์ ประธานผู้บริหาร Product & Business Solutions ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างถุงเงิน และ Max Me ในครั้งนี้ เป็นการผสานจุดแข็งของทั้งสองแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับร้านค้าและสมาชิก โดยร้านค้าในแอปถุงเงินมีจำนวนทั้งสิ้น 1.8 ล้านราย มีหลากหลายประเภททั้งอาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไป สินค้าแฟชั่น และโรงแรมที่พัก ซึ่งทุกร้านค้าถุงเงินเข้าร่วมโครงการพอยท์เพย์ แบ่งสัดส่วนใน กรุงเทพและปริมณฑล 30% และต่างจังหวัด 70% สำหรับความสำเร็จของโครงการพอยท์เพย์ในช่วงที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับจากร้านค้าเป็นอย่างดี เพราะเห็นถึงประโยขน์ของโครงการอย่างชัดเจน โดยการใช้คะแนนแทนเงินสด เป็นการเพิ่มช่องทางรับชำระค่าสินค้าและบริการ ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและเพิ่มรายได้ให้กับร้านค้าถุงเงิน นอกเหนือจากการรับชำระสินค้าในโครงการภาครัฐ

สุดท้ายนี้หวังว่าความร่วมมือระหว่างถุงเงิน และ Max Me ในครั้งนี้ จะเป็นการยกระดับสิทธิประโยชน์ให้กับร้านค้าและสมาชิก ผ่านการผสานจุดแข็งของทั้งสองแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับทุกฝ่าย และมุ่งหวังที่จะขยายฐานลูกค้าของทั้งสองแพลตฟอร์ม เพิ่มโอกาสทางการขายให้กับร้านค้าและมอบสิทธิประโยชน์และประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับสมาชิกในแอปถุงเงิน และ Max Me เช่นกัน


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment