บลจ.ไอร่า ตั้งเป้า 3-5 ปี ขยายพอร์ต Private Wealth แตะ1 หมื่นล้านบาท

บลจ.ไอร่า (AIAM) เล็งขยายฐานกลุ่ม Private Wealth Management เดินหน้าลุยให้บริการจัดการกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ที่ตั้งเป้า 3-5 ปี ขยายพอร์ตการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศแตะ 10,000 ล้านบาท โดยในปีนี้เรามีมูลค่า Wealth Management สูงสุดที่ 1,500 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์ผ่าน Partnership รายใหญ่อย่าง ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ (SMTB)

นายมอค สวี เม้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอร่า จำกัด หรือ AIAM เปิดเผยว่า ขณะนี้ บลจ.ไอร่า เดินหน้าธุรกิจจัดการกองทุนหลังจากที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจจัดการกองทุนส่วนบุคคล และการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน ภายใต้การให้บริการจัดการกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) บริการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน (Selling Agent) การบริหารการลงทุน Private Wealth Management และ Private Banking กับลูกค้ารายบุคคลและลูกค้ารายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ บลจ.ไอร่า ยังมีแผนขยายธุรกิจ Private Fund ให้ครอบคลุมธุรกิจตราสารอนุพันธ์ (Derivative Business) เพื่อตอบโจทย์ภายใต้การออกแบบพอร์ตการลงทุนที่ครบทุกมิติแบบเฉพาะบุคคล โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการลงทุน

“บลจ.ไอร่า เตรียมขยายการให้บริการในกลุ่มลูกค้า Private Wealth Management ในประเทศเพิ่มขึ้น โดยระยะแรกเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ High Net Worth ที่ให้ความสนใจลงทุนเพิ่มในหุ้นกู้อนุพันธ์แฝง (Structured Product) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์คุ้มครองเงินต้นที่ผู้ออกผลิตภัณฑ์ได้รับการจัดอันดับเครดิต Investment grade รวมถึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการลงทุน ซึ่ง บลจ.ไอร่า มีจุดเด่นในด้านความเป็นอิสระในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ความคล่องตัวในการจัดการระบบภายใน รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบของสัญญาในการจัดการกองทุนสามารถทำได้หลากหลาย รวดเร็ว ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม”

ส่วนการขยายตลาดต่างประเทศนั้น นายมอค สวี เม้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากกลุ่มลูกค้า High Net Worth แล้ว ทาง บลจ.ไอร่า ยังมองหาโอกาสในการลงทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่ดี จากการเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินชั้นนำในต่างประเทศของ AIRA GROUP ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่สนใจเข้ามาแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทย โดยเริ่มจากลูกค้าในประเทศญี่ปุ่นผ่านการเป็นพันธมิตรกับธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ หรือ SMTB ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งในการให้บริการ Wealth Management ที่ครอบคลุมการลงทุนมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากความมุ่งมั่นในการปรับกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มที่มีมูลค่า Wealth Management ขนาดใหญ่ รวมทั้งการเจาะกลุ่มลูกค้าสถาบันที่ให้ความสนใจลงทุนในตลาดต่างประเทศจะเป็นตัวผลักดันการเติบโตของพอร์ต Wealth Management ที่ในปีนี้ทำได้สูงสุดแตะ 1,500 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment