AWC จับมือ ททท. และ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เปิดตัวโครงการ “AWC Stay to Sustain” ร่วมสร้างมาตรฐานใหม่ให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวยั่งยืน

แอสเสท เวิรด์ คอร์ป หรือ AWC ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมผนึกกำลังกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism) ชวนนักท่องเที่ยวร่วมโครงการ “AWC Stay to Sustain” เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูต้นไม้ในป่าชุมชน เพิ่มความหลากลายทางชีวภาพในระบบนิเวศ

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า AWC ได้สืบสานนโยบายการท่องเที่ยวยั่งยืนของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับพันธมิตรแบรนด์โรงแรมที่บริหารโรงแรมทั้ง 22 แห่งของ AWC ทั่วประเทศ ซึ่งมีวิสัยทัศน์ร่วมกันที่จะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดปัญหาภาวะโลกร้อน และร่วมสร้างการท่องเที่ยวยั่งยืนให้ประเทศไทย โดยมุ่งสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวยั่งยืนให้กับแขกผู้เข้าพักในโรงแรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวคุณภาพสำหรับนักเดินทางที่มองหาทางเลือกการท่องเที่ยวที่ลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และช่วยเหลือชุมชนในพื้นที่ที่เข้าไปท่องเที่ยว เราจึงริเริ่มโครงการ “AWC Stay to Sustain” ในวันที่ 10 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นวันครบรอบการเข้าตลาดหลักทรัพย์ครบ 4 ปี ของ AWC เปิดโอกาสให้แขกผู้เข้าพักโรงแรมในเครือได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชุมชนในประเทศไทย โดยทุกการเข้าพัก 1 คืน ภายในโรงแรมเครือ AWC จะร่วมดูแลต้นไม้ 1 ต้น อนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชุมชน เพื่อสนับสนุนโครงการของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และรักษาผืนป่าในระยะยาว พร้อมส่งเสริมรายได้ให้ชุมชนที่จะเป็นผู้ดูแลป่า สอดคล้องกับแนวทางของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในการส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืนที่ครอบคลุมมิติของสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมองค์รวม”

หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ได้สืบสานพระราชปณิธาน “ปลูกป่า ปลูกคน” มาเป็นเวลาเกือบสี่ทศวรรษ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ผนึกกำลังกับ AWC ร่วมสืบสานเจตนารมณ์การฟื้นฟูระบบนิเวศและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จึงนำประสบการณ์มาขยายผลเพื่อร่วมส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนในป่า พร้อมร่วมแก้ปัญหาสภาพแวดล้อมของไทยและโลกไปในคราวเดียวกัน ซึ่งการสร้างผืนป่าและอนุรักษ์ป่าไม้เป็นปัจจัยสำคัญในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในระดับองค์กร และในระดับประเทศ รวมถึงการลดภาวะโลกร้อนและลดอัตราการเกิดไฟป่า โดยทางมูลนิธิฯ จะนำรายได้สนับสนุนจากโครงการ “AWC Stay to Sustain” ไปใช้ในการพัฒนาระบบประเมินคาร์บอนเครดิต และจัดตั้งกองทุนเพื่อชุมชนสองประเภท คือ กองทุนดูแลป่า และกองทุนเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน ในขณะเดียวกันปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ”

“AWC Stay to Sustain” เป็นหนึ่งในโครงการตามกรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของ AWC (3BETTERs) ผ่านความร่วมมือกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เพื่อร่วมฟื้นฟูดูแลผืนป่าในระยะยาว โดย AWC ตั้งเป้าสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูต้นไม้ในแต่ละปีประมาณ 500,000 ต้น รวมกว่า 5,000 ไร่ สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 2,500 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี หรือเท่ากับการเข้าพัก 1 คืน ร่วมดูแลต้นไม้ 1 ต้น จะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 5 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี สอดรับกับเป้าหมายระยะยาวของ AWC ในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573

นอกจากนี้ AWC จะร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ สนับสนุนการสร้างรายได้ชุมชนด้วยการสรรหาผลิตภัณฑ์งานฝีมือจากชุมชนทั่วประเทศมาตกแต่งในโรงแรมแบรนด์พันธมิตรชั้นนำระดับโลกเครือ AWC รวมถึงการนำผลผลิตทางการเกษตรคุณภาพจากชุมชนมาปรุงอาหารและเสิร์ฟให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมได้ลิ้มรส เปิดโอกาสให้คนไทยได้มีโอกาสแสดงผลงานสู่สายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ควบคู่การสนับสนุนความยั่งยืนเพื่อสังคมที่มั่นคงรุ่งเรืองด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียม

“AWC ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลก สร้างสรรค์กิจกรรมภายใต้แนวคิด ‘AWC Be Better’ เพื่อมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวยั่งยืนให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนแก่โลกใบนี้ร่วมกัน อาทิ 1) BETTER Planet โรงแรม บันยันทรี สมุย และโรงแรม บันยันทรี กระบี่ จัดโครงการชวนนักท่องเที่ยวเก็บขยะริมชายหาด สามารถเก็บขยะได้ปริมาณกว่า 7 ตัน และโรงแรมในเครือ AWC 9 โรงแรม ได้ร่วมโครงการส่งต่ออาหารส่วนเกินคุณภาพดีให้แก่ชุมชน จำนวน 186,880 มื้อ ช่วยลดปริมาณขยะจากการดำเนินงานสู่บ่อฝังกลบ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 112 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เพื่อปกป้องระบบนิเวศทางธรรมชาติ (Safeguarding Natural System) 2) BETTER PEOPLE โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ จัดโปรแกรมครัว 360 องศา เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เลือกรับประทานอาหารที่ใช้ผลผลิตจากฟาร์มออร์แกนิคของโรงแรมมาปรุงอาหาร และเยี่ยมชมฟาร์มเพื่อเรียนรู้วิธีการเกษตรแบบยั่งยืนและสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น โดยเศษอาหารที่เหลือจากการรับประทานอาหารยังถูกส่งกลับไปที่ฟาร์มเพื่อทำเป็นปุ๋ยหมัก ช่วยลดปริมาณขยะของโรงแรมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และโครงการวิสาหกิจเพื่อสังคม ‘เดอะ GALLERY’ ศูนย์กลางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชนท้องถิ่นภายในเครือโรงแรมของ AWC รวมถึง 3) BETTER PROSPErity ที่ร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์โรงแรมสร้างสรรค์กิจกรรมวัดผลความยั่งยืนที่ช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม พร้อมส่งเสริมการบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน (Sustainable Consumption and Production) ตลอดจนพัฒนาห่วงโซ่อุปทานที่ทุกภาคส่วนจะได้รับประโยชน์และคุณค่าร่วมกัน (Sustainable and Resilience Supply Chain) ทั้งนี้ AWC เชื่อมั่นว่าการรวมพลังความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและชุมชน จะช่วยสร้างพลังขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก พร้อม “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” ให้กับทุกภาคส่วนไปพร้อมกัน” นางวัลลภา กล่าวสรุป


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment