{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
กระทรวงอุตสาหกรรม ดันมาตรการลดฝุ่นพิษ ย้ำอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทย ไร้ปัญหาการลักลอบเผา พร้อมเสนอมาตรการ in cash & in kind สนับสนุนด้านการเงินด้วยการให้รางวัลแก่ตัวเกษตรกรที่ไม่เผาอ้อยและโรงงานที่ไม่รับอ้อยเผา และมาตรการเพิ่มผลิตภาพในกระบวนการผลิต
ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในระหว่างการเป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสนับสนุนและส่งเสริมให้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเติบโต และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "อ้อยยุคใหม่ ขับเคลื่อนด้วยใจ ปั้นน้ำตาลไทยไร้ฝุ่น” ว่า อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เป็นเกษตรอุตสาหกรรมที่มีระบบกำกับดูแล โดยมีพระราชบัญญัติและหน่วยงานในการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด และดำเนินงานมากว่า 30 ปี ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่นพิษ PM 2.5 เช่น การแก้ไขปัญหาอ้อยลักลอบเผา การลงโทษปรับโรงงานที่รับอ้อยไฟไหม้เกินเกณฑ์ที่กำหนด การจัดหาเครื่องสางใบอ้อย การส่งเสริมการรับซื้อใบอ้อยเพื่อเพิ่มรายได้ และลดการเผาใบอ้อยหลังตัด รวมทั้งการขอความร่วมมือโรงงานช่วยประกันราคารับซื้ออ้อยสด การสนับสนุนเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อลดต้นทุน การสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติในหลักการโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่นพิษ PM 2.5 ฤดูการผลิต 2563/2564 และ 2564/2565 โดยสนับสนุนเงินช่วยเหลือเพื่อลดต้นทุนการตัดอ้อยสดให้กับชาวไร่อ้อยในอัตราที่เหมาะสมไปแล้ว 2 ฤดูการผลิต ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม จะมีการศึกษาผลดีผลเสียและความคุ้มค่าของการดำเนินการดังกล่าว รวมทั้งการหาแนวทางและมาตรการเพื่อลดต้นทุนในกระบวนการผลิตอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดความยั่งยืนและไม่เป็นภาระต่องบประมาณของรัฐบาลอย่างใกล้ชิดตามมติคณะรัฐมนตรีต่อไป
กระทรวงอุตสาหกรรม มุ่งเน้นปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจโลก โดยคำนึงถึงการสร้างความยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรม ภายใต้นโยบาย MIND 4 มิติ คือ ความสำเร็จทางธุรกิจ การดูแลสังคมและชุมชนโดยรอบ การรักษาสิ่งแวดล้อม และการกระจายรายได้สู่ชุมชน ซึ่งทุกโรงงานต้องดำเนินการครอบคลุมทั้ง 4 มิติ เพื่อให้ธุรกิจเติบโต ยั่งยืนอย่างสมดุล อย่างไรก็ดี ในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม กระทรวงฯได้ปรับปรุงกฎระเบียบใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ที่หากไม่มีการปรับตัวอาจได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดของประชาคมโลก ทั้งการกีดกันทางการค้า หรือมาตรการบังคับด้านสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ล่าสุดในที่ประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ได้เสนอมาตรการ in cash & in kind ที่เป็นมาตรการที่มีการสนับสนุนด้านการเงิน โดยให้รางวัลแก่เกษตรกรที่ไม่เผาอ้อยและโรงงานที่ไม่รับอ้อยเผา และมาตรการเพิ่มผลิตภาพในกระบวนการผลิต ซึ่งผู้แทนชาวไร่อ้อยกำลังทบทวนและจะนำเข้าที่ประชุม กอน. เพื่อพิจารณามาตรการที่กระทรวงเสนอต่อไป
สำหรับการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กรมส่งเสริมการเกษตร สถาบันอาหาร บริษัท น้ำตาลราชบุรี จำกัด และบริษัท เคทิส วิจัยและพัฒนา จำกัด ซึ่งเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารจัดการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) เพื่อบริหารจัดการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 5 มาตรการ ได้แก่ 1. การสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับเกษตรกรเพื่อเข้าถึงเครื่องจักรกลการเกษตร 2. การช่วยเหลือโรงงานน้ำตาลที่ไม่รับอ้อยเผาเข้าหีบ โดยส่งเสริมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 3. มาตรการทางกฎหมาย ในการกำกับติดตามการลักลอบเผาอ้อย 4. มาตรการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม 5. มาตรการ Burning Tax (Carbon Tax) ร่วมกับกรมสรรพสามิต เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบเผาอ้อยและปัญหาฝุ่น PM 2.5
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS