{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
มร.มาร์นิกซ์ สวาร์ท (ซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านพัฒนาธุรกิจ เว็บไซต์โกแบร์ (GoBear.com/th) เว็บไซต์รวบรวม ค้นหา และเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เปิดเผยว่า โกแบร์ได้จัดงานสัมมนา “GoBear Fin Detective สืบฟินวินทุกเรื่องเงิน” ให้ความรู้ด้านการเงินเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้บริโภคคนไทยหันมาสนใจสุขภาพทางการเงินของตนเอง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการวางแผนด้านการเงินระยะยาว ณ โดยได้เชิญกูรูด้านการเงินอย่าง ดร. เบญจรงค์ สุวรรณคีรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ME by TMB มาร่วมให้คำแนะนำถึงการเสริมสร้างสุขภาพทางการเงินของคนไทย นอกจากนี้ยังมีคู่หูดูโอผู้ก่อตั้งเพจชื่อดัง “เทพลีลา” เหว่ง-ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์ และ เติ๊ด-ภูถิรพัฒน์ อ่องศรี ที่จะมาร่วมให้ข้อมูลและร่วมทำแบบทดสอบเพื่อตรวจสุขภาพทางการเงินด้วยโรงภาพยนตร์ VIP1 ชั้น 5 สยามพารากอน
ทั้งนี้โกแบร์ (GoBear) ได้จัดทำดัชนีชี้วัดสุขภาพทางการเงินของโกแบร์ (GoBear) หรือ GoBear Financial Health Index เพื่อการเรียนรู้และ ทำความเข้าใจถึงแนวคิด ความรู้สึกและการจัดการการเงินส่วนบุคคล ซึ่งการศึกษาดังกล่าวเป็นการศึกษาร่วมกับองค์กรวิจัยชื่อดังเจ้าของรางวัลการันตีอย่าง Kadence International โดยจัดทำขึ้นในตลาดสำคัญสี่แห่งของ GoBear ทั่วเอเชีย ได้แก่ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย
ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่าปัญหาหลัก ๆ ของการไม่ลงทุนเกิดจากปัญหาสภาพคล่องทางการเงินมากกว่า โนว์ฮาวทางด้านการลงทุน โดยได้มีการศึกษาในกลุ่มคนไทย 5 กลุ่มอายุ คือกลุ่มอายุ 18-25 กลุ่มอายุ 26-35 กลุ่มอายุ 36-45 กลุ่มอายุ 46-55 และกลุ่มอายุ 56-65 พบว่าประมาณ 50% ของทุกกลุ่มอายุไม่ลงทุนเนื่องจากไม่มีเงินเหลือเพียงพอหลังหักรายจ่าย เหตุผลอื่นที่ตามมาคือการขาดความคุ้นเคยหรือขาดความรู้ด้านการลงทุน รวมถึงมองว่าการลงทุนมีความเสี่ยง นอกจากนี้ยังพบว่ากว่า 50% ไม่มีเงินออมในบัญชีที่จะใช้ดำรงชีพได้เกิน 6 เดือนหากเกิดการขาดรายได้กระทันหัน และที่สำคัญคือ ปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินนี้ เป็นปัญหาที่เกิดซ้ำ โดย 66% ของคนไทย พบเจอปัญหานี้เป็นประจำทุกปี และ 15% ของคนที่ขาดรายได้หรือตกงาน ไม่มีทางออกหรือความช่วยเหลือทางการเงินใด ๆ ทั้งจากญาติพี่น้องหรือคนรอบข้าง
ทั้งนี้ปัญหาการขาดวินัยด้านการเงินมักส่งผลให้เกิดปัญหาด้านการเงินอื่นๆ ตามมา ทั้งเรื่องของหนี้สิน การไม่มีเงินออมและการไม่ได้วางแผนด้านการเงินรองรับชีวิตหลังเกษียณ จากการศึกษาพบว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ ตั้งเป้าที่จะเกษียณที่อายุต้น 50 แต่ในคนวัย 46 ขึ้นไป ตั้งเป้าเกษียณที่อายุหลัง 60 นั่นหมายความว่า ถึงแม้คนไทยคาดหวังจะเกษียณเร็วขึ้น แต่เมื่อคนไทยจำนวนไม่น้อยยังขาดวินัยทางการเงิน ทำให้ในความเป็นจริง คนไทยอาจจะยังคงต้องทำงานต่อไปหลังอายุ 60 นอกจากนี้การศึกษาของ Kadence ยังพบอีกว่า 38% ของคนวัย 18-25 ยังไม่เริ่มวางแผนเกษียณ ในขณะที่ยังมีคนวัย 36-45 อีกถึง 26% ยังไม่เริ่มวางแผนเกษียณเช่นเดียวกัน
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS