กำเนิดหมู่เกาะฮาวาย ดินแดนแห่งภูเขาไฟกลางทะเล

.

วันนี้ เมื่อ 240 ปีที่แล้ว (18 มกราคม พ.ศ. 2321) ระหว่างที่ กัปตัน เจมส์ คุก นักสำรวจคนสำคัญของโลกชาวอังกฤษ ออกสำรวจทางเชื่อมระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและแอตแลนติก ได้ล่องเรือมาถึงเกาะโออาฮู และตั้งชื่อหมู่เกาะที่ค้นพบนี้ว่า “หมู่เกาะแซนด์วิช” เพื่อเป็นเกียรติแก่ จอห์น มอนทากู* (John Montagu) หรือเอิร์ลแห่งแซนด์วิชที่ 4 (4th Earl of Sandwich) ขุนนางชาวอังกฤษ ในเวลาต่อมา หมู่เกาะแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “หมู่เกาะฮาวาย”

.

“หมู่เกาะฮาวาย” เกิดจาก Hotspot หรือจุดร้อนจัดใต้เปลือกโลกเคลื่อนตัวและดันเปลือกโลกจนเกิดเป็นเกาะในที่สุด และด้วยเหตุที่เปลือกโลกมีการเคลื่อนตัวตลอดเวลา ประกอบกับจุดร้อนจัดใต้เปลือกโลกยังคงดันขึ้นมาในตำแหน่งเดิม ทำให้เกิดหมู่เกาะเรียงตัวทอดยาวเป็นลูกโซ่

.

ปัจจุบัน หมู่เกาะฮาวายประกอบด้วยเกาะหลัก 8 เกาะใหญ่ เรียงตามลำดับจากตะวันตกเฉียงเหนือไปใต้ คือ นิอิฮาว (Niihau) คาวาย (Kauai) โออาฮู (Oahu) มอลาคาย (Molokai) ลานาย (Lanai) คาโฮโอลาวี (Kahoolawe) เมาอี (Maui) และฮาวาย (Hawaii) หรือที่เรียกอีกชื่อว่า เกาะใหญ่ (Big Island) เพื่อลดความสับสนระหว่างชื่อเกาะกับชื่อรัฐ

.

หมู่เกาะฮาวายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่เดินทางมาชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ทั้งทะเล ภูเขา แถมยังได้ศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์ไปพร้อมกับวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก เกริ่นมาขนาดนี้ คงอยากรู้กันแล้วว่าที่ฮาวายมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ

.

ชมลาวาไหลลงทะเล Lava Ocean Entry เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเที่ยวฮาวาย ถ้าใครอยากชมลาวาไหลลงทะเลแบบเต็มๆ ก็ต้องวางแผนการเดินทางล่วงหน้าด้วยนะคะ เพราะลาวาจะไม่ได้ไหลลงทะเลตลอดเวลา หรือถ้าใครไปไม่ตรงกับเวลาที่ลาวาไหลลงทะเล ก็สามารถไปชมลาวาตามพื้นผิว หรือที่เรียกกันว่า Surface Lava Flow กันใกล้ๆได้ โดยต้องมีไกด์ท้องถิ่นคอยนำทางเพื่อความปลอดภัยค่ะ

เกาะที่นิยมไปชมลาวาไหลลงทะเล คือเกาะใหญ่ หรือ Big Island เพราะยังมีภูเขาไฟที่ยังคงปะทุอยู่ 

.

สามารถเข้าไปเช็คข้อมูลการไหลของลาวาได้ที่เว็บไซต์ https://volcanoes.usgs.gov/volcanoes/kilauea/elevated.html

หมู่เกาะฮาวายมีจุดดำน้ำอยู่แทบทุกเกาะ ทั้งดำน้ำลึกและดำน้ำตื้น เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมจุดดำน้ำที่สวยงามติดอันดับต้นๆ ของโลก โดยเฉพาะที่อ่าวฮาเนามา (Hanauma Bay) บนเกาะโออาฮู (Oahu) เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ อยู่ห่างจากหาดไวกิกิ (Waikiki Beach) ราว 16 กิโลเมตร ที่นี่เป็นจุดชมปะการังน้ำตื้นยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพียงแค่ใส่หน้ากากสน็อร์กเกิล คุณก็จะได้เห็นปะการังและสัตว์ทะเลที่แหวกว่ายอยู่รอบกายอย่างจุใจ แต่ที่นี่เขามีกฎและข้อห้ามที่ต้องปฏิบัติตามกันด้วย หากใครฝ่าฝืนก็จะต้องเสียค่าปรับ ทางที่ดีช่วยกันทำตามกฎ เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติที่สวยงามกันไว้ดีกว่าค่ะ

หากใครไม่อยากดำน้ำ แนะนำให้ไปนั่งเรือชมปลาวาฬแบบใกล้ชิดได้ที่เกาะคาวาย (Kauai), เกาะเมาอี (Maui) หรือเกาะโออาฮู (Oahu) ค่ะ

หมู่เกาะฮาวายถือเป็นต้นกำเนิดของการเล่นกระดานโต้คลื่น ด้วยภูมิประเทศและกระแสลมทำให้คลื่นที่ฮาวายแรงและมีความสูงหลายเมตร ที่นี่จึงเป็นสวรรค์ของนักโต้คลื่นทั่วโลก สามารถเล่นกระดานโต้คลื่นได้ทุกเกาะ เกาะที่มีคลื่นแรงและสูงกว่า 20 เมตรที่นักโต้คลื่นอยากจะมาพิชิตกันมากที่สุด คือ อ่าวฮานาเล (Hanalei Bay) บนเกาะคาวาย (Kauai) 

.

ส่วนมือใหม่หัดเล่น แนะนำให้ไปที่หาดไวกิกิ (Waikiki Beach) บนเกาะโออาฮู (Oahu) เพราะคลื่นไม่ค่อยแรงมาก พอเล่นเซิร์ฟเสร็จ ก็มานอนอาบแดดต่อได้เลยค่ะ

อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจไม่แพ้ทะเลก็คือ ภูเขาไฟค่ะ มาถึงฮาวายทั้งที ต้องไม่พลาดไปชมความงดงามของ The Diamond Head ปากปล่องภูเขาไฟอายุกว่าห้าแสนปี บนเกาะโออาฮู (Oahu) แลนมาร์กสำคัญของฮาวาย มีความสูง 170 เมตร นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปบนยอดเขาจะได้ชื่นชมความงดงามของเกาะแบบ 360 องศา ไม่ต้องกลัวว่าทางขึ้นจะลำบากนะคะ เพราะมีทางขึ้นที่ทำไว้อย่างดี

สำหรับคนที่ชอบความตื่นเต้นท้าทาย แนะนำให้ไปที่ China Wall บนเกาะโออาฮู (Oahu) หน้าผาหินย้อยสวยงามและมีคลื่นลมแรง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากระโดดหน้าผาและเล่นเซิร์ฟกัน 

นอกจากนี้ บนเกาะโออาฮู (Oahu) ยังมีน้ำตกที่สวยงามที่สุดในฮาวาย และยังเป็นแหล่งทางเกษตรกรรมที่สำคัญของเกาะฮาวายมานานนับร้อยปี นั่นก็คือ น้ำตกเรนโบว์ (Rainbow Falls) นั่นเอง หากมาเที่ยวที่เกาะโออาฮู (Oahu) ต้องไม่พลาดแวะมาสัมผัสกับละอองน้ำตกชุ่มฉ่ำที่นี่

หลังจากชื่นชมธรรมชาติ เปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์กันบ้างค่ะ 

.

พระราชวังอิโอลานี (ʻIolani Palace) พระราชวังของกษัตริย์ผู้ปกครองราชอาณาจักรฮาวาย ในอดีต สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2425 ในสมัยของพระเจ้าคาลาคาอูอา (King Kalakaua) ที่นี่ถือเป็นพระราชวังเพียงแห่งเดียวในสหรัฐอเมริกา 

.

หลังจากสหรัฐอเมริกาเข้ามาปกครองและได้ควบรวมเอาหมู่เกาะฮาวายเป็น 1 ใน 50 รัฐของอเมริกา ได้มีการบูรณะปรับปรุง และขึ้นทะเบียนให้พระราชวังแห่งนี้ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติ ใน พ.ศ. 2505 และได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม มาตั้งแต่ พ.ศ. 2521 

.

พระราชวังอิโอลานีแห่งนี้ เคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าคาลาคาอูอา (King Kalakaua) กษัตริย์พระองค์ที่ 7 แห่งฮาวาย พระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระองค์ คือการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมประเพณี ดนตรีพื้นเมือง และสถาปัตยกรรมของฮาวาย และ พระนางลิลิอูโอคาลานี (Queen Liliuokalani) พระขนิษฐา ซึ่งเป็นราชินีองค์เดียวและองค์สุดท้ายที่ทรงปกครองราชอาณาจักรฮาวาย

ภายในพระราชวังโอ่โถง ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม มีสิ่งของล้ำค่าที่บอกเล่าเรื่องราวของราชวงศ์ฮาวายในอดีตและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์จำนวนมากถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ว่ากันว่าค่าก่อสร้างพระราชวังแห่งนี้มูลค่าสูงถึง 350,000 ดอลลาร์สหรัฐ มีการสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์จากโรงงานเดียวกับที่ผลิตให้ทำเนียบขาว แถมยังติดตั้งระบบไฟฟ้าที่มีราคาแพงเกือบเท่ากับค่าก่อสร้างพระราชวังทั้งหลังอีกด้วย ถือเป็นพระราชวังที่ทันสมัยสุดๆในสมัยนั้นเลยทีเดียว

.

เปิดให้เข้าชม ทุกวันจันทร์-เสาร์ เวลา 09:00 - 16:00 น. 

ค่าเข้าแบบมีไกด์ทัวร์ ผู้ใหญ่ 21.75 ดอลลาร์สหรัฐ เด็ก 6 ดอลลาร์สหรัฐ 

ค่าเข้าแบบไม่มีไกด์ (ฟังข้อมูลจากเครื่องบันทึกเสียง) ผู้ใหญ่ 14.75 ดอลลาร์สหรัฐ เด็ก 6 ดอลลาร์สหรัฐ

.

อ่านข้อมูลเกี่ยวกับพระราชวัง ได้ที่เว็บไซต์นี้ค่ะ

http://www.iolanipalace.org/

จอห์น มอนทากู (John Montagu) หรือ เอิร์ลแห่งแซนด์วิชที่ 4 (4th Earl of Sandwich) ขุนนางชาวอังกฤษในศตวรรษที่ 17 ดำรงตำแหน่งลอร์ดคนที่หนึ่งแห่งศาลพาณิชย์นาวี และที่สำคัญยังเป็นผู้อุปถัมภ์ของกัปตันเจมส์ คุก อีกด้วย จึงเป็นสาเหตุให้ กัปตัน เจมส์ คุก ตั้งชื่อหมู่เกาะฮาวายที่เพิ่งค้นพบในตอนนั้น ให้ชื่อว่า “หมู่เกาะ แซนด์วิช” นั่นเอง

.

ว่ากันว่า ลอร์ดแซนด์วิช เป็นนักเล่นไพ่มือฉกาจ เล่นไพ่วันละหลายชั่วโมงติดต่อกัน โดยไม่ยอมลุกไปไหน เมื่อหิวจึงสั่งให้คนรับใช้นำเนื้อเค็มประกบด้วยขนมปังสองแผ่นมาให้ เพื่อให้รับประทานสะดวกขณะเล่นไพ่และไม่ทำให้ไพ่เลอะเทอะ จนเมนูนี้กลายเป็นเมนูยอดฮิตในหมู่นักพนัน และเริ่มมีคนสั่งตามว่า "เอาเหมือนกับแซนด์วิช!" และในที่สุดเมนูนี้ก็ถูกเรียกสั้นๆ เหลือเพียงคำว่า "แซนด์วิช”

.

ในภาพคือ กัปตันเจมส์ คุก

คลิกอ่านทั้งหมด http://bit.ly/2mFECBA

.

#สำนักข่าวสับปะรด #Onthisday #Hawaii#Travel #JohnMontagu #JamesCook


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment