TCMC โชว์ปี 2565 รายได้ทะลุ 9 พันล้านบาท

ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TCM Corporation) หรือ TCMC ประกาศผลประกอบการปี 2565 เติบโตกว่าร้อยละ 17 จากปี 2564 กวาดรายได้กว่า 9,066 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 174.52 ล้านบาท พร้อมลุยขยายตลาดใหม่ เพิ่มผลิตภัณฑ์หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการฟื้นตัวหลังวิกฤต

นางสาวปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TCMC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในปี 2565 มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 9,066.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 7,744 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.07 และมี EBITDA จำนวน 490.78 ล้านบาท สูงขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 64.10 และมีผลประกอบการเป็นกำไรสุทธิ 174.52 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 120.11 ล้านบาท โดยคิดเป็นกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ 106.16 ล้านบาท เป็นผลมาจากตลาดที่เริ่มฟื้นกลับมาหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิว ที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น จากการกลับมาของนักท่องเที่ยว การฟื้นตัวของกลุ่มโรงแรม โรงภาพยนตร์ ศูนย์ประชุม การเติบโตของธุรกิจ MICE และการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน การเพิ่มไลน์สินค้า รวมถึงขยายตลาดสู่กลุ่มลูกค้าใหม่และความพยายามลดต้นทุน ปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการดำเนินงานสู่ความยั่งยืนของทุกกลุ่มธุรกิจ

“จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวและการกลับมาอย่างคึกคักของนักท่องเที่ยวต่างชาติทำให้ปี 2565 ภาพรวมการการดำเนินงานมีการปรับตัวดีขึ้น รายได้หลักยังคงมาจากกลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในประเทศอังกฤษ ถึงแม้จะมีความกังวลกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่เป็นผลพวงตามมาหลังจากโควิดคลี่คลาย ความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครน และจากภูมิรัฐศาสตร์ ที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิต ภาคการขนส่งสินค้า อัตราเงินเฟ้อ สภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ยังสามารถคงไว้ซึ่งผลประกอบการที่เป็นบวก และผลจากความพยายามทำลีนในองค์กรตลอด 2 ปีที่ผ่านมาของกลุ่มธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิว ประกอบกับตลาดที่เริ่มฟื้นกลับมา ทำให้ผลประกอบการพลิกกลับมามีกำไร ส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีกำไรสูงขึ้นร้อยละ 245.30 และยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดได้ โดยกลุ่มบริษัทยังคงมั่นใจที่จะขับเคลื่อนบริษัทให้เติบโตในปี 2566 โดยการมุ่งมั่นแสวงหาโอกาสในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจ รวมถึงการปรับการดำเนินงานสู่ความยั่งยืน เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของเรา ให้สามารถเติบโตและก้าวไปในอนาคตอย่างมั่นคง” นางสาวปิยพร กล่าว

ทั้งนี้ สภาพคล่องทางการเงินของกลุ่มบริษัทโดยรวมยังอยู่ในสภาพที่ดี โดยในปี 2565 กลุ่มบริษัทมีรายได้อื่นจำนวน 71.74 ล้านบาท เป็นรายได้จากดอกเบี้ยรับ ค่าเช่า ค่าขายสินทรัพย์ เศษซาก รวมถึง รายได้จากการขายธุรกิจ Arlo & Jacob และรายได้จากการบริหารจัดการด้านภาษี และมีกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมตามสัญญาอนุพันธ์จำนวน 30.53 ล้านบาท เนื่องจากการจองสัญญาอนุพันธ์ล่วงหน้าของกลุ่มธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิว และธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ลดลงจากวันสิ้นปี 2564 จำนวน 212.89 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.50 มีหนี้สินรวมลดลงจากวันสิ้นปี 2564 จำนวน 182.98 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.13 และมีส่วนของผู้ถือหุ้น ลดลงจากปี 2564 จำนวน 29.91 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.11 สำหรับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 2.13:1 ลดลงจากวันสิ้นปี 2564 ซึ่งมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเท่ากับ 2.17:1

“ผลการดำเนินงานในปี 2565 แสดงให้เห็นว่าบริษัทได้มุ่งมั่นและพยายามอย่างเต็มที่ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตสร้างผลกำไร ท่ามกลางปัจจัยท้าทายทั้งภายในและภายนอก โดยปี 2566 ยังถือเป็นปีแห่งความท้าทายในหลากหลายด้าน อย่างไรก็ตาม ทีซีเอ็มซียังตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งการตลาดและขับเคลื่อนบริษัทสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยแม้จะมีปัจจัยท้าทายใหม่ ๆ บริษัทได้เตรียมพร้อมรับมือด้วยการจัดทีมงานที่แข็งแกร่ง และปรับทัพธุรกิจสู่ความยั่งยืน ทั้งยังไม่ทิ้งโอกาสการเติบโต โดยยังคงมีการศึกษาตลาดและแสวงหาโอกาสเพื่อการต่อยอดไปสู่ธุรกิจใหม่ ๆ และยังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาสู่ความยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) เพื่อนำไปสู่การเติบโตสู่การเป็นองค์กรชั้นนำระดับโลกแห่งอนาคต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทีซีเอ็มซี กล่าวปิดท้าย


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment