{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล หรือ HENG เผยผลงานปี 2565 ขยายพอร์ตสินเชื่อรวม 12,000 ล้านบาท เติบโต 31% โดยมีรายได้รวม 2,124 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 461 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 30% ลดสัดส่วน NPLs เหลือ 3% บอร์ดฯ อนุมัติการจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.0666 บาทต่อหุ้น
นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการขยายพอร์ตสินเชื่อรวมเพิ่มเป็น 12,020 ล้านบาท หรือขยายตัว 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งความสำเร็จมาจากศักยภาพการให้บริการสินเชื่อ ตอบสนองความต้องการแหล่งเงินทุนของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายหลังเปิดสาขาให้บริการครบ 678 แห่งได้ตามเป้าหมายทุกภูมิภาคของประเทศ ทำให้ HENG สามารถขยายฐานลูกค้ารายใหม่ ๆ เข้ามาใช้บริการสินเชื่อได้อย่างต่อเนื่อง โดยพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน มีสัดส่วน 96% ของพอร์ตสินเชื่อรวม โดยแบ่งสัดส่วนตามประเภทสินเชื่อประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อคิดเป็นสัดส่วน 56% และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ 39% ของพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักประกัน และส่วนที่เหลืออีก 5% เป็นสินเชื่อที่มีบ้านและที่ดินเป็นหลักประกัน อีกทั้งรายได้จากค่านายหน้าประกันชีวิต และนายหน้าประกันวินาศภัยยังขยายโตโดดเด่นคิดจากปีก่อนถึง 88%
ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งปี 2565 ทำได้ 2,124 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% และมีกำไรสุทธิ 461 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้ออยู่ที่ 15% ใกล้เคียงกับกรอบกำหนดอัตราดอกเบี้ยของหน่วยงานภาครัฐ สะท้อนถึงความสามารถการทำกำไรอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สำหรับแผนกลุทธ์ของบริษัทฯ ที่มุ่งรุกให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อเฉลี่ยโดยรวมทั้งปีอยู่ที่ 18% ประกอบกับการบริหารจัดการด้านคุณภาพลูกหนี้ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนการตั้งสำรองลูกหนี้ปรับลดลงเหลือ 4.5% จากเดิม 5.9% และหนี้ NPLs ปรับลดลงเหลือ 3% จากเป้าหมาย 3.1% ซึ่งทำได้ดีกว่าเป้าหมาย
ซึ่งภายใต้การทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญทางด้านการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ที่ให้ความสำคัญทางด้านการทำธุรกิจ ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแล โดย Environment เป็นหลักเกณฑ์ที่คำนึงถึงในด้านความรับผิดชอบของบริษัทต่อสิ่งแวดล้อม Social เป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้วัดว่าบริษัทมีการจัดการความสัมพันธ์และมีการสื่อสาร กับ ลูกจ้าง คู่ค้า ลูกค้า หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) อย่างไร และ Governance เป็นหลักการที่ใช้วัดว่าบริษัทมีการจัดการบริการความสัมพันธ์ในเชิงการกำกับดูแลอย่างไร เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพโปร่งใส ตรวจสอบได้ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งนี้แนวคิด ESG ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจ ด้วยการสะท้อนบทบาทความรับผิดชอบของธุรกิจที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสีย และการนำเสนอผลการดำเนินงานในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
อนึ่งที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 จึงมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานในปี 2565 ในอัตรา 0.0666 บาทต่อหุ้น คิดเป็นร้อยละ 55 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการ สูงกว่านโยบายการจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหักทุนสำรองตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 3 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 เพื่อตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นทุกท่าน
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS