{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) ชูปี 2565 คาดปริมาณการขายยางธรรมชาติทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.5 ล้านตัน เติบโตจากปี 2564 ที่ 1.3 ล้านตัน ส่วนปี 66 วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องและตั้งเป้าเพิ่มปริมาณขายยางธรรมชาติรวม 2 ล้านตันต่อปี
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัท จึงวางแผนขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง และวางเป้าหมายเพิ่มปริมาณการขายยางธรรมชาติทุกประเภทเป็น 2 ล้านตันในปี 66 แม้ภาพรวมเศรษฐกิจอเมริกาและยุโรปมีความเสี่ยงเกิดภาวะถดถอย แต่ประเทศจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ จึงเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อดีมานด์ในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ
สำหรับ ปี 2565 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่บริษัทฯสามารถผลักดันการดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและผลกระทบจากความไม่แน่นอนในการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคยางรายใหญ่ โดยสามารถขยายกำลังการผลิตแล้วเสร็จรวม 6 โครงการ ได้แก่ 1) ขยายกำลังการผลิตยางแท่งที่โรงงานจังหวัดพิษณุโลก สกลนคร บึงกาฬ ตรัง และประเทศเมียนมา รวม 306,600 ตันต่อปี และ 2) ขยายกำลังการผลิตน้ำยางข้นที่โรงงานบึงกาฬ 52,560 ตันต่อปี ประกอบกับได้มุ่งเน้นการขายและทำการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้มีปริมาณการขายยางธรรมชาติทุกประเภทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 กว่า 1.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 16.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าจะตลอดทั้งปี 2565 จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.5 ล้านตัน เติบโตจากปี 2564 ที่ 1.3 ล้านตัน อีกทั้งสามารถเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยของธุรกิจยางธรรมชาติในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ 13% จากความสามารถบริหารจัดการที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จการจัดงานใหญ่ 2 งาน ได้แก่ งานบรรทุกยาง ติดราง สร้างรอยยิ้มปี 6 และยางก้อนถ้วยคุณภาพดีสร้างสุข ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2565 และงานน้ำยางคุณภาพดี สร้างสุข
ปี 3 เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาบรรยายให้ความรู้และเทคนิกต่างๆ เกี่ยวกับการขนส่งยาง การผลิตยางก้อนถ้วยและน้ำยางให้มีคุณภาพที่ดี เพื่อร่วมยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมยางของประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น และตอกย้ำถึงการดูแลสังคม โดยกิจกรรมทั้ง 2 งานดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวสวนยาง คู่ค้า และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทาน
ขณะเดียวกันได้เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ “ศรีตรังเฟรนด์ส สเตชัน” (Sri Trang Friends Station) เพื่อให้บริการแก่ผู้ค้ายางธรรมชาติที่สนใจสามารถลงทะเบียนสมัครใช้งานโปรแกรมรับซื้อยางในแอปฯ ช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมืออาชีพและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยางไทยสู่ยุคดิจิทัล พร้อมทั้งเปิดตัวบริการใหม่ “ซุปเปอร์ ไดรเวอร์” (Super Driver) ที่เปิดรับผู้ที่สนใจหารายได้เสริมด้วยการเป็นตัวแทนผู้รับ ส่ง รวบรวมยางธรรมชาติประเภทต่างๆ นำมาส่งยังโรงงานของกลุ่มบริษัทศรีตรัง เน้นกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ ชาวสวนยางหรือครอบครัวที่มีสวนยางหรือขนส่งยางขาย เพื่อสร้างอาชีพเสริม โดยผู้สมัครจะได้รับอุปกรณ์และสิทธิประโยชน์ต่างๆ และมีโอกาสสร้างรายได้และเบี้ยขยันกว่า 18,500 บาทต่อเดือน
ในปี 2565 บริษัทฯ ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เป็น A แนวโน้ม Stable หรือ คงที่ จากเดิม A- แนวโน้ม Positive สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจและการแข่งขันที่ดี ฐานะการเงินที่มั่นคง การรับมือกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และความสามารถชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ยได้ตามกำหนด
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS