แสนสิริเล็งออกหุ้นกู้ชุดใหม่ เตรียมทุนรุกแผนธุรกิจ ปี 2566

แสนสิริ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี 6 เดือน และอายุ 4 ปี 6 เดือน กำหนดจองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท ชูอัตราดอกเบี้ยระหว่าง [4.10 - 4.60]% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ เตรียมเงินทุนรุกแผนธุรกิจปี 2566

นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า แสนสิริวางแผนออกหุ้นกู้ชุดใหม่ในต้นปี 2566 โดย เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา และเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป สำหรับ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [4.10-4.30]% ต่อปี และ หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [4.40-4.60]% ต่อปี หุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง โดยหุ้นกู้และบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่ (Stable)” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 คาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 25 – 27 มกราคม 2566 นี้ จองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 1,000 บาทบาท เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของแสนสิริ ที่เป็นแบรนด์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ซึ่งไม่ใช่เพียงเฉพาะการพัฒนาที่อยู่อาศัยเท่านั้น แสนสิริยังมองถึงความสำคัญในด้านการลงทุนที่ต้องทั่วถึงและเท่าเทียมกัน

สำหรับหุ้นกู้แสนสิริชุดใหม่ จัดจำหน่ายผ่าน 10 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ทั้งนี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่องจากนักลงทุนที่ให้การตอบรับหุ้นกู้ของแสนสิริเป็นอย่างดีมาโดยตลอด สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อแสนสิริ รวมทั้งความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาฯ จากการมองตลาดเร็วและพร้อมปรับตัวรองรับทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา

“เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้เพื่อรองรับการเติบโตที่ก้าวกระโดด ด้วยแผนรุกธุรกิจการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตอกย้ำความสำเร็จในการได้รับความเชื่อมั่นในการเป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน” ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าและมีผลงานที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้าน ยอดขายที่มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายเกินเป้าหมายได้ถึง 50,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่มียอดขายรวม 33,500 ล้านบาทถึง 49% ซึ่งจะนับเป็นปีที่แสนสิริสามารถสร้างยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงคาดการณ์รายได้รวมปี 65 ที่คาดว่าจะสามารถทำได้เกินกว่า 35,000 ล้านบาท โตขึ้นเกือบ 20% จากปีก่อน ที่มีรายได้รวม 29,558 ล้านบาท ที่ส่งผลให้แสนสิริมีกำไรสุทธิทุบสถิติ New record High พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 38 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท” นายวิชาญ กล่าว