{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
Amazing AEC กับเกษมสันต์
บทความเดลินิวส์ฉบับวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562
ตอน ยิงทิ้งได้เลย
อาทิตย์ที่แล้วผมบอกว่าไม่มีประเทศไหนในโลกที่แก้ปัญหาคอร์รัปชั่นได้สำเร็จโดยใช้การรณรงค์เป็นมาตรการนำแบบที่ ไทยเรากำลังทำกันอยู่ แต่ต้องใช้ “การปราบ” เป็นมาตรการนำ การปราบคอร์รัปชั่นทั่วโลกที่ทำได้สำเร็จนั้นล้วนต้อง อาศัยบารมีและความจริงใจของผู้นำเป็นจุดเริ่มต้น ฮ่องกง เกาหลีใต้ที่แต่ก่อนโกงกันมหาศาลก็ปราบได้สำเร็จเพราะผู้นำ มีความตั้งใจจริงกันทั้งนั้น
อินเดียซึ่งมีประชากรราว 1,300 ล้านคน ปีพ.ศ. 2557 ที่ได้นเรนทรา โมดี เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นได้ 38 คะแนน อันดับที่ 85 ของโลกเท่ากันกับไทย แต่หลังเข้ารับตำแหน่งโมดี ก็ไล่ปราบ คอร์รัปชั่น ทำกระทั่งยกเลิกการใช้ธนบัตรที่มีกว่า 23,000 ล้านใบเพื่อดัดหลังพวกคอร์รัปชั่น หนีภาษีและค้ายาเสพติด ผลก็คือปีพ.ศ. 2561 อินเดียได้คะแนนดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น 41 คะแนน อันดับที่ 87 ดีขึ้นกว่าตอนโมดีเข้ารับตำแหน่ง และดีกว่าเมืองไทยไปแล้ว ทั้งๆที่โครงสร้างประเทศเขาควรจะปราบโกงได้ยากกว่าเรา
อีกสองประเทศที่พอได้ผู้นำดี มีความตั้งใจจริงในการปราบคอร์รัปชั่น ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นก็ดีขึ้น คืออินโดนีเซีย ซึ่งพอได้ โจโควีเข้ามาเป็นประธานาธิบดีในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2557 นั้นคะแนนดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นก็ดีขึ้นจาก 34 คะแนนอันดับที่ 107 แย่กว่าเมืองไทยมาเป็น 38 คะแนนอันดับที่ 89 ดีกว่าเมืองไทย ส่วนเมียนมาพอได้ด่อว์อองซาน ซูจี มาขับเคลื่อนประเทศในฐานะผู้นำตัวจริงในปีพ.ศ. 2559 จากที่เคยได้คะแนน 20 ต้นๆ อยู่เกือบจะบ๊วยของโลก ปีล่าสุด พ.ศ. 2561 ได้ 29 คะแนนดีขึ้นอย่างมาก ถือได้ว่ามีพัฒนาการด้านการปราบคอร์รัปชั่นดีที่สุดใน AEC
ที่เรียกเสียงฮือฮามากที่สุดเห็นจะได้แก่ฟิลิปปินส์ เพราะเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต้ วัย 74 ปี ประกาศบอกประชาชนทั้งประเทศว่าถ้าเจอเจ้าหน้าที่กำลังรีดไถหรือคอรัปชั่น เขาอนุญาตให้ประชาชนยิงเจ้าหน้าที่ คนนั้นได้เลย แต่ขอว่าอย่ายิงให้ถึงตาย เพราะถ้าเจ้าหน้าที่ตายคนยิงจะมีความผิดประธานาธิบดีจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ถ้ายิง ให้แค่บาดเจ็บดูเตอร์เต้จะช่วยให้ไม่มีความผิด ถ้าประชาชนคนไหนใจไม่ถึงไม่กล้ายิงก็สามารถใช้วิธีทุบตีเอาได้ ก่อนหน้า นี้ในเดือนกรกฎาคม ประธานาธิบดีก็ยังเคยเรียกร้องรัฐสภาให้ผ่านกฎหมายประหารชีวิต คนค้ายาเสพติดและคอร์รัปชั่น
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกๆที่ดูเตอร์เต้ประกาศปราบคนโกงอย่างเอาถึงตาย เพราะเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ปีที่แล้ว ซึ่งเขาเรียกตำรวจที่ ทำความผิดเรื่องรีดไถและคอร์รัปชั่นนับร้อยคนเข้ามาอบรมเพื่อไม่ให้กระทำผิดอีก ซึ่งการอบรมดังกล่าวได้มีการถ่ายทอด สดทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ ไฮไลท์มาอยู่ช่วงที่ดูเตอร์เต้ประกาศว่าเขาได้จัดตั้งหน่วยพิเศษ มีหน้าที่จับตาเฝ้าติดตาม ตำรวจซึ่งเคยกระทำผิดกลุ่มนี้ตลอดเวลา หากหน่วยพิเศษนี้พบว่าตำรวจคนไหนหวนกลับไปรีดไถหรือคอร์รัปชั่นอีก เขาอนุญาตให้หน่วยพิเศษนี้ยิงตำรวจคนนั้นทิ้งได้เลย
อย่าคิดว่าดูเตอร์เต้เพียงแค่ขู่คนคอร์รัปชั่นเล่นๆเท่านั้น เพราะเมื่อตอนเข้ารับตำแหน่งใหม่ๆในปีพ.ศ. 2559 ซึ่งเขาประกาศ จะจับตายคนค้ายาเสพติดนั้น เพียงแค่ปีแรกปีเดียวมีคนค้ายาโดนวิสามัญไปกว่า 5,000 รายทั้งโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและ โดยมือมืด ผมกำลังรอดูข่าวว่าจะมีเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์โดนยิงสักกี่คน และผมยังคิดต่อไปด้วยว่าถ้ารัฐบาลไทยอนุญาตให้ คนไทยยิงเจ้าหน้าที่ซึ่งรีดไถหรือคอร์รัปชั่นได้โดยไม่มีความผิด จะเหลือเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่บาดเจ็บเอาไว้ทำงานกันสักกี่คน
เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ดูเตอร์เต้ประกาศยุบสำนักงานสลากกินแบ่งของเขา PCSO : Philippines Charity Sweepstakes Office ซึ่งถึงแม้จะทำรายได้สูงถึง 63,000 ล้านเปโซ หรือราว 37,190 ล้านบาทและส่งรายได้ให้รัฐบาลเอาไปใช้จ่ายแบบ บ้านเรา แต่เพราะดูเตอร์เต้ได้ ข้อมูลมาว่า PCSO มีการคอร์รัปชั่นกันเยอะ และเขาเห็นว่าล็อตเตอรี่เป็นการพนันมอมเมาส่ง ผลร้ายต่อเยาวชนและคนฟิลิปปินส์ ดูเตอร์เต้จึงประกาศยุบทิ้ง PCSO เสียเลย
ลุยคนโกงกันซะขนาดนี้เลยทำให้คะแนนดัชนีภาพลักษณ์ของฟิลิปปินส์ดีวันดีคืน จากที่เคยแย่กว่าเราตอนนี้ได้คะแนน เท่ากับไทยแล้ว จากอดีตที่เคยเป็นคนป่วยของเอเชีย วันนี้ฟิลิปปินส์กลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของเอเชียไปแล้ว ปล่อยให้ ไทยกลายเป็นคนป่วยรายใหม่ของเอเชียแทน
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS