JWD เผย Q3/65 กวาดรายได้รวม 1,593 ล้านบาท เติบโต 15% ตามเป้าหมาย

เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ JWD ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 เติบโตตามแผน ทำรายได้รวม 1,593 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน วางเป้าหมายทำผลงานไตรมาส 4 ดีที่สุดในรอบปี

ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยทำรายได้รวมเป็นสถิติใหม่ที่ 1,593.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8% และ 13.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้าตามลำดับ จากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องและความต้องการใช้บริการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายที่เพิ่มขึ้นจากการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 111.7 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจประกอบกับการบันทึกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการควบรวมธุรกิจ

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2565 เติบโตในทิศทางเดียวกัน โดยมีรายได้รวม 4,402.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 391.5 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจส่วนใหญ่มีอัตราเติบโตที่ดีจากการวางแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4/2565 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในรอบปี เนื่องจากเข้าสู่ไฮซีซั่นของธุรกิจและจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและภูมิภาคอาเซียน ส่งผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการบริโภคภายใต้ประเทศ ทำให้เกิดความต้องการใช้บริการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนเพิ่มขึ้น

โดยมั่นใจว่าธุรกิจของบริษัทฯ ส่วนใหญ่จะมีอัตราเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจคลังสินค้าทั่วไปคาดว่าจะมีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากโครงการใหม่ PACM ในจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีอัตราการเช่าพื้นที่เต็มความจุแล้ว และการขยายบริการไปยังกลุ่มสินค้าใหม่ ได้แก่ ยาและวัคซีน หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐาน GSDP (Good Storage and Distribution Practices) หรือหลักเกณฑ์การจัดเก็บและการจัดส่งสินค้าที่ดีของ WHO (องค์กรอนามัยโลก) เป็นที่เรียบร้อย ปัจจุบันเริ่มให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวแล้ว ส่วนธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายฐานลูกค้าและปัญหาขาดแคลนชิพยานยนต์ที่ทยอยปรับตัวดีขึ้น รวมถึงธุรกิจบริการอาหารในไต้หวันที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment