TKN ผลงาน Q3/65 นิวไฮฟันกำไร 180 ล้านบาท

เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN ประกาศผลงานไตรมาส 3/65 ทำกำไรสุทธิ 180 ล้านบาท ทำนิวไฮ ดันผลงานงวด 9 เดือนแรก ทำรายได้จากการขาย 3,135.1 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 313.6 ล้านบาท ปักธงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตตามแผน

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2565 (กรกฎาคม - กันยายน) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 835% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 19.3 ล้านบาท ถือเป็นการทำกำไรสูงสุด (New High) ในรอบ 2 ปี นับจากช่วงเวลาก่อนมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่มีรายได้จากการขาย 1,208.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 830.7 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจาก 4 ส่วน ได้แก่

1.) การมีผลิตภัณฑ์สาหร่ายที่หลากหลายทั้งแบบ ทอด อบ ย่าง (Product Mixed) ทำยอดขายเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์สาหร่ายแบบอบและย่าง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง

2.) การดำเนินกลยุทธ์ “Go Firm” ที่มุ่งปรับองค์กรให้กระชับ (Lean) คล่องตัวและรวดเร็วขึ้นเพื่อลดต้นทุน ทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนราคาวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง

3.) ใช้ระบบเครื่องจักรอัตโนมัติเข้ามาทดแทนแรงงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทำให้มีต้นทุนสามารถแข่งขันได้ และ

4.) การรวมโรงงานทั้ง 2 แห่งเข้าด้วยกัน โดยย้ายเครื่องจักรการผลิตจากโรงงานนพวงศ์ ปทุมธานี ไปไว้ในพื้นที่โรงงานโรจนะ ทำให้ได้รับประโยชน์จากการประหยัดจากขนาด (Economies Of Scale) และอัตราการใช้กำลังการผลิตดีขึ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม - กันยายน 2565) มีกำไรสุทธิ 313.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 221% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 97.7 ล้านบาท มีรายได้จากการขาย 3,135.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 2,533.7 ล้านบาท และถือว่าทำผลงานได้ใกล้เคียงกับรายได้จากการขายทั้งปี 2564 ที่ทำได้ 3610.9 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จมาจากการดำเนินตามกลยุทธ์ 3 Go (Go firm – Go Brand – Go Global) ตามที่ตั้งไว้ ทำให้บริษัทฯ เริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น และเห็นผลชัดเจนโดยเฉพาะ Go Firm ในการ Lean องค์กรให้มีความคล่องตัวพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ทำให้บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร และรักษาอัตราการทำกำไรให้ดีขึ้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TKN กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2565 จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10 - 13% สำหรับการขยายตลาดในประเทศ TKN ได้มุ่งมั่นขยายเข้าสู่ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ซึ่งเป็นร้านโชห่วย หรือร้านขายของชำ เนื่องจากมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในประเทศและเข้าถึงคนท้องถิ่นได้ง่าย ขณะที่ช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ร้านสะดวกซื้อ จะเน้นกระจายสินค้าให้ครอบคลุมมากขึ้นเช่นกัน


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment