ธ.ก.ส. เติมทุนครึ่งปีกว่า 3 แสนล้าน

ธ.ก.ส. ก้าวสู่ปีที่ 57 โชว์ผลงานเติมทุนสู่ภาคชนบทในรอบครึ่งปีบัญชี 65 ไปแล้วกว่า 3.68 แสนล้านบาท พร้อมขับเคลื่อนงานนโยบายรัฐ วางเป้า 2 ไตรมาสสุดท้าย เดินหน้าแนวทางการผลิตสู่พืชเกษตรมูลค่าสูง โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ต่อยอดชุมชนสร้างฐานการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลัก BCG เ

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งปีบัญชี 2565 (1 เมษายน 2565 ถึง 30 กันยายน 2565) ว่า ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคชนบทในช่วงดังกล่าวไปแล้ว จำนวน 368,745 ล้านบาท ทำให้มียอดสินเชื่อสะสมคงเหลือ จำนวน 1,601,350 ล้านบาท เงินรับฝาก จำนวน 1,770,078 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม จำนวน 2,121,282 ล้านบาท หนี้สินรวม จำนวน 1,974,906 ล้านบาท ส่วนของเจ้าของ จำนวน 146,376 ล้านบาท มีรายได้รวม 42,654 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม จำนวน 41,266 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จำนวน 1,388 ล้านบาท อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (ROA) เท่ากับร้อยละ 0.13 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของเจ้าของ (ROE) เท่ากับร้อยละ 1.88 อัตราส่วนสภาพคล่องต่อเงินฝาก เท่ากับร้อยละ 12.98 อัตราสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ร้อยละ 12.5 และอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ร้อยละ 12.55 สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด

นายธนารัตน์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านถือเป็นช่วงแห่งความยากลำบากของเกษตรกรและผู้ประกอบการทางการเกษตร จากภาระต้นทุนทางการผลิตที่เพิ่มสูง ทั้งค่าปุ๋ย พลังงาน แรงงาน และข้อจำกัดในการขนส่งสินค้าเกษตร ส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้จัดทำมาตรการในการเข้าไปดูแลแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น การตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในช่วงขาขึ้นออกไปให้นานที่สุด ทั้งอัตราดอกเบี้ยลูกค้าสถาบันชั้นดี (MLR) อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MOR) และอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) เพื่อมิให้เป็นภาระต้นทุนกับลูกค้าในช่วงการฟื้นตัว การจูงใจให้ลูกค้าชำระหนี้ผ่านโครงการชำระดีมีคืน Plus วงเงิน 3,000 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2565 การดูแลภาระหนี้สินเดิม เพื่อลดความกังวลใจในเรื่องหนี้ ผ่านการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ กำหนดชำระหนี้ใหม่ตามศักยภาพที่แท้จริง การไกล่เกลี่ยหนี้กรณีมีหนี้นอกระบบและมาตรการจ่ายดอกตัดต้น กรณีลูกค้าส่งชำระหนี้ ธนาคารจะแบ่งภาระการตัดชำระหนี้ตามสัดส่วนต้นเงินและดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าที่มีหนี้เป็นภาระหนัก ควบคู่การพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการประกอบอาชีพ เช่น การให้ความรู้ด้าน Financial Literacy/Digital Literacy การร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐเอกชน สถาบันการศึกษา ในการศึกษาดูงาน การฝึกปฏิบัติเพิ่มทักษะ ทั้งอาชีพเดิม อาชีพเสริม อาชีพใหม่ การปรับเปลี่ยนการผลิตไปปลูกพืชที่มีมูลค่าสูง การลดต้นทุนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต การยกระดับมาตรฐานสินค้า เป็นต้น โดยคาดว่าจะช่วยลดภาระหนี้ครัวเรือนให้เกษตรกรและ NPLs/Loan ลดลงอยู่ที่ร้อยละ 7 ในช่วงสิ้นปีบัญชี

นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังทำหน้าที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง ผ่านมาตรการและโครงการสำคัญ ๆ ได้แก่ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 โดย ธ.ก.ส. อำนวยความสะดวกในการเปิดจุดลงทะเบียน ณ พื้นที่ ธ.ก.ส. สาขาทั่วประเทศ รวมถึงการแนะนำการลงทะเบียนทางออนไลน์ กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว ซึ่งระยะเวลาการลงทะเบียน ตั้งแต่ 5 กันยายน - 31 ตุลาคม 2565 มีประชาชนร่วมลงทะเบียนผ่าน ธ.ก.ส. ทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 4.6 ล้านราย จากผู้ลงทะเบียนทั้งหมดประมาณ 22 ล้านราย การร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลดภาระและแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจและ Covid-19 พร้อมกระตุ้นการรับรู้ผ่านการจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ซึ่งจะจัดไปยังจังหวัดต่าง ๆ 5 ครั้ง ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร วันที่ 4 - 6 พฤศจิกายน 2565 ขอนแก่น วันที่ 18 - 20 พฤศจิกายน 2565 เชียงใหม่ 16 - 18 ธันวาคม 2565 ชลบุรี วันที่ 20 - 22 มกราคม 2566 และหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา วันที่ 27 - 29 มกราคม 2566 ซึ่งในงานดังกล่าว ธ.ก.ส. จะจัดเตรียมเครื่องมือด้านการบริหารจัดการหนี้ ความรู้ทางการเงิน แนวทางการประกอบอาชีพเดิม อาชีพเสริมและอาชีพใหม่ พร้อมการเติมสินเชื่อที่สอดคล้องกับความต้องการในอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่ผ่อนปรน การจ่ายเงินตามโครงการประกันรายได้ในพืชเศรษฐกิจหลัก 5 ชนิด คือข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ยางพาราและปาล์มน้ำมัน และโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รวมจำนวนเงิน 142,667 ล้านบาท และมีเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 4.68 ล้านราย


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment