PRI ส่ง “วายด์ อินทีเรีย” รุกธุรกิจออกแบบตกแต่งภายในครบวงจร

“พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น” ดัน “วายด์ อินทีเรีย” เดินหน้าเจาะตลาดทั้งลูกค้าโครงการและผู้บริโภครายย่อยทุกเซ็กเมนท์ทั้งอยู่เองและปล่อยเช่า พร้อมแพ็คเกจหลากรูปแบบตอบโจทย์ซื้ออยู่เอง-ปล่อยเช่าต่างชาติ-เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ชูจุดแข็งบริการ One Stop Service ครอบคลุมต้นน้ำถึงปลายน้ำ

นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรี​โม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เปิดเผยว่า PRI จึงเตรียมส่งบริษัท วายด์ อินทีเรีย จำกัด บริษัทย่อยในเครือซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการออกแบบและตกแต่งภายในแบบครบวงจร ร่วมตอบโจทย์บริการในที่อยู่อาศัยทุกจังหวะของการใช้ชีวิตของผู้บริโภคตามแนวคิด “At Your Service Every Moment” ด้วยการเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มตลาดผู้พัฒนาโครงการ (Developer) กลุ่มลูกค้ารายย่อย (End User) ตลอดจนกลุ่มเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย (Project Owner) โดยเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าทุกระดับราคา ทุกเซ็กเมนท์

เบื้องต้น เตรียมเดินหน้าเจาะกลุ่มตลาดสำคัญ เช่น ตลาดตกแต่งปล่อยเช่าห้องพักให้ชาวต่างชาติ ตอบโจทย์นักลงทุนในการปรับปรุงตกแต่งคอนโดมิเนียมให้ดึงดูดชาวต่างชาติที่มองหาที่พักระยะยาว (Long-Stay) ตลาดตกแต่งเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ตอบโจทย์ทั้งผู้พัฒนาเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ และเจ้าของห้องพักในโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ทั้งกลุ่มอยู่อาศัยเองและกลุ่มลงทุนปล่อยเช่า เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สิน

ด้านนายตนัย ธนะชานันท์ ประธานอำนวยการ บริษัท พรีโม เซอร์วิส​ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายด์ อินทีเรีย จำกัด หรือ Wyde Interior กล่าวว่า วายด์ อินทีเรียมีจุดเด่นด้านบริการออกแบบตกแต่งภายในแบบ One Stop Service ตอบโจทย์ได้ทั้ง 1.กลุ่มลูกค้ารายย่อย (End users) ด้วยบริการตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบ การตกแต่งติดตั้ง ทั้งในรูปแบบการออกแบบตกแต่งเฉพาะตัว (Custom-made) และในรูปแบบแพ็คเกจสำเร็จรูป ช่วยให้ลูกค้าสามารถรับบริการทุกอย่างจบได้ในที่เดียว ตอบโจทย์ตั้งแต่ตลาดแมสจนถึงตลาดลักชัวรี่ และ 2.กลุ่มลูกค้าโครงการ (Project owners) นอกจากบริการตกแต่งครบวงจรแล้ว บริษัทในเครือพรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น ยังมีบริการครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งการจัดหานักออกแบบ การบริหารงานออกแบบเพื่อคุมคุณภาพและงบประมาณ ไปจนถึงงานบริการด้านอื่นๆ อาทิ การดูแลและบริหารงานก่อสร้าง งานนิติบุคคลบริหารจัดการโครงการ บริการแม่บ้านและช่างซ่อมบำรุง ช่วยให้กลุ่มลูกค้าโครงการสามารถบริหารจัดการได้ง่ายและครบวงจรในที่เดียว

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมใช้จุดแข็งดังกล่าว ผสานเข้ากับเทรนด์การออกแบบภายในที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต อาทิ เทรนด์การตกแต่งห้องพักแบบ Double Volume หรือคอนโดมิเนียม 2 ชั้น ที่ผู้บริโภคนิยมมากขึ้น เนื่องจากได้พื้นที่กว้างขวาง โอ่อ่าขึ้น เทรนด์การตกแต่งห้องด้วยระบบ Home Automation เนื่องจากผู้บริโภคต้องการชีวิตที่ทันสมัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทมีความเชี่ยวชาญในการนำเฟอร์นิเจอร์ Dual-purpose ที่ใช้งานได้มากกว่า 1 ฟังก์ชัน และระบบ Home Automation เข้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภค รวมถึงศึกษาเทรนด์การตกแต่งห้องใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment