จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ รุกแผนสร้าง Ecosystem หนุนธุรกิจเพลงให้เติบโตอย่างยั่งยืน

จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ มองเห็นโอกาสในการต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมเพลงไทย รวมทั้งนำเพลงไทยเข้าสู่อุตสาหกรรมดนตรีระดับโลก โดยหวังให้เป็น Soft Power ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับประเทศไทย

คุณนรมน ชูชีพชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในด้านของอุตสาหกรรมเพลงไทย คนไทยยังนิยม ฟังเพลงไทยมากถึง 78% ส่วน 22% เป็นเพลงต่างชาติ โดยมีสัดส่วนประเภทเพลงลูกทุ่งถึง 48% และ 34% เป็นเพลงกระแสหลัก อย่าง ป๊อป, ร็อค, เรโทร, เพลงเก่า ที่เหลือ 18% จะเป็นเพลง กระแสใหม่ที่กำลังมาแรงประเภทไอดอล ฮิปฮอป อินดี้ หากพูดถึงมาร์เก็ตแชร์ของแกรมมี่ในตลาดเพลงไทยตามประเภทแนวเพลง เรามีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% ในทุกประเภท โดยเฉพาะเพลงร็อคเรามีสัดส่วนถึง 91% ส่วนประเภทอื่นๆอย่าง เพลงในกระแส ประเภท ป๊อป, เรโทร และเพลงเก่าอยู่ที่ 58% ส่วนเพลงลูกทุ่งอยู่ที่ 63% แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจเพลงของแกรมมี่ยังได้รับความนิยมและสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เราจึงเดินหน้าสร้าง Ecosystem ให้กับธุรกิจเพลงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ดังนี้

กระบวนการสรรหา : เปิดรับสมัครออดิชั่นเฟ้นหาเด็กรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์ไม่ว่าจะเป็น ป๊อป ไอดอล ร็อค, อินดี้ ลูกทุ่ง และ ไทดอล นำมาฝึกฝนเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเป็นศิลปินฝึกหัด อีกทั้งเพื่อเสริมกำลังในการพัฒนาคนเข้าสู่วงการเพลงมากขึ้น

กระบวนการพัฒนา : ศิลปินฝึกหัดทุกคนจะได้รับการพัฒนาทักษะด้านต่างๆจากสถาบันสอนวิชาชีพศิลปินด้วยมาตรฐานระดับโลก คือ จีเอ็มเอ็ม อะคาเดมี่ เพื่อมุ่งสู่การเป็นศิลปินมืออาชีพที่ได้มาตรฐานระดับสากล

กระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน : เมื่อฝึกฝนจนผ่านมาตรฐาน International Quality Training Program และมีศักยภาพในการเป็นศิลปินมืออาชีพ ซึ่งในการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินแต่ละคน เรามุ่งดึงศักยภาพและความเป็นตัวตนของศิลปินออกมาทั้งสไตล์เพลง คาแรคเตอร์ จนพร้อมที่จะออกสู่ตลาด เมื่อออกไปแล้วเรายังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายสู่การเป็นมืออาชีพ เป็นซุปเปอร์สตาร์ต่อไป

นอกจากนี้ยังได้มีแผนเปิดตัวค่ายเพลงเพิ่มเติมเพื่อรองรับความหลากหลายทางดนตรี ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวค่ายเพลง ไทดอลมิวสิค เพื่อเจาะกลุ่มแฟนคลับ คนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นวัยรุ่นในภาคอีสาน รองรับกระแสลูกทุ่งอีสานเลือดใหม่ที่กำลังมาแรง ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน คือ การสร้างเพลงไทยให้ไปสู่ระดับสากล ดังนั้นเราจึงต้องพัฒนาศิลปินให้มีจุดเด่น ประกอบกับพัฒนาเพลงให้มีความหลากหลายทางดนตรีมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยได้ปรากฎสู่สายตาทั่วโลกและนำไปสู่การเป็น Soft Power ที่สำคัญ ของประเทศ ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนเข้าประเทศรวมไปถึงอุตสาหกรรมเพลงไทยได้อย่างต่อเนื่อง


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment