ศธ.จับมือ “การีนา” เปิดโครงการ “Gamer to Coder” เพิ่มทักษะดิจิทัลให้เด็กไทย

ศธ.จับมือผู้พัฒนาและให้บริการเกมส์ออนไลน์ระดับโลก “การีนา” เปิดตัวโครงการ “Gamer to Coder” เพิ่มทักษะดิจิทัลให้เด็กไทย ตั้งเป้า 3-5 ปี คนไทยต้องพัฒนาแพลตฟอร์มขายต่างชาติ

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในงานแถลงข่าวความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และบริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด ในการเปิดตัว “โครงการนำร่องฝึกอบรมพัฒนาเกมเมอร์รุ่นใหม่ สู่การเป็นนักเขียนโปรแกรม (Gamer to Coder)” เพื่อเตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพในสังคมยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยนายสมใจ วิเศษทักษิณ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เเละนโยบาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกประจำรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และดร.ศรุต วานิชพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส Sea (ประเทศไทย)

ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือกับ บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด จัด “โครงการ Gamer to Coder” ซึ่งเป็นโครงการนำร่องฝึกอบรมพัฒนาเกมเมอร์รุ่นใหม่ สู่การเป็นนักเขียนโปรแกรม เพื่อพัฒนาเยาวชนไทยให้มีทักษะความรู้ด้านดิจิทัลอย่างมืออาชีพ โดยมุ่งส่งเสริมคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีความรู้และความสนใจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและเกมออนไลน์อยู่เดิมและมีความคุ้นชินกับเทคโนโลยีดิจิทัล โดยโครงการนี้จะมุ่งต่อยอดทักษะด้านดิจิทัลต่อไปอย่างเป็นระบบ เพื่อเตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพในสังคมยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่ผ่านมากระทรวงศึกษากระทรวงศึกษาธิการตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาการศึกษาให้เข้าถึงเยาวชน เพราะเยาวชนถือเป็นความหวังของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนยุคใหม่ที่เติบโตในยุคดิจิทัล จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการทำงานของหลายสาขาอาชีพจากทุกอุตสาหกรรม การพัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้ด้านดิจิทัลในประเทศไทย โดยเฉพาะการเรียนการสอนการเขียนโปรแกรม (CODING) ที่เป็นหนึ่งในหัวใจหลักในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในยุคดิจิทัลจึงยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น

ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการจึงได้มีการผลักดันนโยบาย CODING FOR ALL มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 3 ปี โดยเริ่มจากการเรียน UNPLUGGED CODIND ก่อน และพัฒนาไปเป็น PLUGGED CODING ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จมีความคืบหน้าไปอย่างมาก โดยมีเป้าหมายที่ต้องการเร่งกระจายการเรียนรู้ด้าน CODING ไม่เฉพาะแต่ครูและนักเรียนเท่านั้น แต่ต้องกระจายไปสู่ทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ทุกช่วงวัยให้ได้มากที่สุด เนื่องจากเราสามารถนำการ CODING ไปประยุกต์และเชื่อมโยงได้กับทุกศาสตร์ อีกทั้งยังช่วยฝึกให้เยาวชนมีการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบและนำความคิดสร้างสรรค์มาประยุกต์ใช้เป็น ซึ่ง CODING เป็นทักษะสำคัญที่เด็กไทยในปัจจุบันทุกคนต้องมี เป็นภูมิคุ้มกันเพื่อเผชิญกับ VUCA WORLD โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคนไทยให้ CODE เองได้ มีนวัตกรรมเป็นของตัวเอง และเชื่อว่าภายใน 3-5 ปี คนไทยต้องมีความรู้ ความสามารถทั้ง CODING และ CODER จนก้าวไปถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มของคนไทยไปขายให้ต่างประเทศ