{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เผยผลดำเนินงานไตรมาส 2/2565 มีรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ 837 ล้านบาท และกำไรปกติ 264 ล้านบาท ลุยขยายการลงทุนธุรกิจสาธารณูปโภค(น้ำ) - ธุรกิจไฟฟ้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2565 ของบริษัทฯ รับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ จำนวน 837 ล้านบาท และมีกำไรปกติ (Normalized Net Profit) 264 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 280% จากไตรมาส 1/2565 โดยการเพิ่มขึ้นของกำไรปกติเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้ามีสาเหตุหลักจากส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ปริมาณยอดขายและบริหารจัดการน้ำทั้งในและต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น และการรับรู้รายได้จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติม อย่างไรก็ตามกำไรปกติในไตรมาส 2/2565 ลดลงเล็กน้อย 1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2564 ในขณะที่ในส่วนของกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2565 มีจำนวน 205 ล้านบาท ลดลง 17% จากไตรมาส 2/2564 เนื่องจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ จำนวน 1,445 ล้านบาท ลดลง 8% และมีกำไรปกติ จำนวน 333 ล้านบาท ลดลง 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่มีกำไรสุทธิจำนวน 283 ล้านบาท ลดลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับภาพรวมการขยายธุรกิจในครึ่งหลังของปี 2565 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) และธุรกิจไฟฟ้าใหม่ๆ โดยเฉพาะ ในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนการลงทุน (M&A) ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และโครงการประเภท Green Field โดยการนำโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในประเทศไปต่อยอดการลงทุนต่อไป เพื่อผลักดันให้บริษัทฯ มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญ และมั่นคงควบคู่ไปพร้อมกับดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป
“บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ครึ่งหลังของปีนี้ธุรกิจยังมีการเติบคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตาม Demand ของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ภายหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย กอปรกับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว รวมถึงนโยบายการขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาล เป็นการส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลเชิงบวกต่อ WHAUP ในฐานะผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคในนิคมฯ ในส่วนของ Solar Rooftop มีแนวโน้มเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มเติมอีกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้ายอดเซ็นสัญญาซื้อขายสะสมที่ 150 เมกะวัตต์ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ในปีนี้ ในขณะที่หากมีการปรับเพิ่มค่า Ft ตามที่ กกพ. ได้ประกาศออกมา อีก 68.66 สตางค์สำหรับรอบเดือน ก.ย. - ธ.ค. 65 ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อบริษัทฯ ด้วยเช่นกัน”
นอกจากนี้ในไตรมาส2 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการเสนอขายหุ้นกู้มูลค่ารวม 2,800 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) จำนวน 1,800 ล้านบาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อพื้นฐานธุรกิจ ความแข็งแกร่งทางการเงิน ตลอดจนศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ รวมทั้งยังแสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และมุ่งมั่นสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนถือเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ มาโดยตลอด
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS