THG โชว์ Q 2/65 รายได้รวม 2,674 ล้านบาท กำไรสุทธิ 412 ล้านบาท

THG เปิดงบไตรมาส 2/65 มีรายได้รวม 2,674 ล้านบาท ดันกำไรสุทธิพุ่ง 412 ล้านบาท หลังตัวเลขคนไข้ปกติเริ่มกลับเข้ามา ยอดขายจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เข้าตามเป้า ครึ่งปีแรกกวาดรายได้ 6,204 ล้านบาท มั่นใจครึ่งปีหลังยังไปได้ดีมีอีกหลายสัญญาณบวก

นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 ของ THG มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,674 ล้านบาท เติบโต 40.3% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 1,906 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ 2,424 ล้านบาท ธุรกิจการบริบาลผู้ป่วยและเครื่องมือแพทย์ 243 ล้านบาท และธุรกิจอื่นๆ 7 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 412 ล้านบาท (กำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 398 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 472.2% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ทำได้จำนวน 72 ล้านบาท (กำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 84 ล้านบาท)

ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2565 อย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือ สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยในกลุ่มโรคปกติกลับเข้ามารับการรักษาเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการให้บริการฉีดวัคซีนภาครัฐและวัคซีนทางเลือกผ่านทางเครือข่ายโรงพยาบาลกว่า 18 แห่ง โดยให้บริการไปแล้วมากกว่า 600,000 โดส และมีการรับรู้รายได้จากการโอนห้องพักอาศัยในโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ที่ทำได้ตามเป้าหมาย ประกอบกับไตรมาสนี้ THG ยังได้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมอีก 1 บริษัท ได้แก่ บริษัท โรงพยาบาลภัทร จำกัด ซึ่งเพิ่มสัดส่วนการลงทุนจาก 16.67% เป็น 21.47% รวมถึงการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ดีทำให้รายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้

ด้านผลงานงวด 6 เดือนแรกปี 2565 มีการเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน โดยมีรายได้รวม 6 เดือนอยู่ที่ 6,204 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78.7% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 3,472 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิงวด 6 เดือน อยู่ที่ 964 ล้านบาท (กำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 925 ล้านบาท) ซึ่งพลิกฟื้นจากขาดทุนสุทธิในงวด 6 เดือนแรกปี 2564 จำนวน 151 ล้านบาท (ขาดทุนสุทธิเฉพาะส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 131 ล้านบาท)

แนวโน้มการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปี 2565 นั้น THG ยังเชื่อมั่นว่าจะเติบโตต่อเนื่อง เพราะตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไปของทุกปีจะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจการแพทย์ เนื่องจากมีผู้ป่วยโรคตามฤดูกาล อาทิ ไข้หวัด ไข้เลือดออกเข้ามารับการรักษา ส่งผลให้ผู้ป่วยทั่วไปทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ทยอยฟื้นตัวกลับมาสู่ภาวะปกติ และยังได้ผลบวกจากการเปิดประเทศ ทำให้จำนวนผู้ป่วยชาวต่างชาติในเครือโรงพยาบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นชัดเจน ทั้งชาวกัมพูชา เมียนมา และตะวันออกกลาง

ขณะที่การอนุมัติสร้างโรงพยาบาลธนบุรีรังสิตจะช่วยสนับสนุนให้โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น และยังอยู่ระหว่างศึกษาแผนการเข้าซื้อกิจการเพื่อขยายจำนวนโรงพยาบาลในเครือเพิ่มศักยภาพเติบโต มีพัฒนาการด้าน Digital Platform ที่น่าสนใจ อาทิ Health Blockchain สำหรับจัดเก็บข้อมูลสุขภาพคนไข้เชื่อมโยง Eco system ด้านสุขภาพ รวมถึง Metaverse ที่คาดจะได้เห็นความคืบหน้าชัดเจนเร็วๆ นี้