บล.กรุงศรีเปิดตัว แอปพลิเคชั่น KSS iGlobal เพื่อการลงทุนในต่างประเทศสำหรับคนรุ่นใหม่ที่

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (บล.กรุงศรี) ดึงผู้บริหารรุ่นใหม่เสริมทัพ มุ่งเน้นธุรกิจบริการลงทุนแบบครบวงจร เปิดตัวบริการ KSS iGlobal บริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ ให้นักลงทุนบุคคลสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศง่ายๆ ในแอปพลิเคชั่นเดียว นำร่อง 5 ประเทศ

นายธนัท วงษ์ชูแก้ว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บล.กรุงศรี ยังมีการเพิ่มบริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น KSS iGlobal ซึ่งจะเปิดบริการในวันที่ 1 กรกฏาคม 2565 นี้ โดย KSS iGlobal นี้เป็นนวัตกรรมการซื้อขายและลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่นที่สามารถซื้อขายหุ้นต่างประเทศรวมกว่า 80 ประเทศได้ในแอปพลิเคชั่นเดียว รวมถึงการซื้อขายหุ้นประเทศเวียดนาม ที่ลูกค้าสามารถทำการซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้โดยไม่ต้องเข้าออกหลายแอป สามารถตรวจสอบสถานะของพอร์ตการลงทุนได้อย่างง่ายดาย โดยในปีนี้บริษัทจะนำร่องโดยการเปิดให้บริการตลาดหลักทรัพย์ที่นักลงทุนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดีใน 5 ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง เวียดนาม ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ นอกจากนั้นแล้ว KSS iGlobal ยังมีระบบที่เหนือกว่าคู่แข่ง โดยสามารถทำการซื้อขายเศษส่วนหุ้น และ ETF ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาได้โดยตรง (Fractional Share) มากกว่า 3,000 หลักทรัพย์ นักลงทุนสามารถระบุจำนวนเงินลงทุนเริ่มต้นที่ต้องการ จากนั้นระบบจะคำนวณจำนวนหุ้นให้อัตโนมัติ ซึ่งเป็นวิธีคำนวณเดียวกันกับการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีในปัจจุบัน

โดยการซื้อขายเศษส่วนหุ้นนั้นมีหลักทรัพย์รองรับรวมถึงมีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล นอกจากนั้นแล้วยังลดความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นระหว่างวัน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนรุ่นใหม่ที่มีเงินลงทุนเริ่มต้นน้อยสามารถเป็นเจ้าของหุ้นเทคโนโลยีชื่อดังหรือหุ้นสินค้าแบรนด์เนมในตลาดสหรัฐฯ ได้ตามจำนวนเงินที่นักลงทุนต้องการ และในอนาคตจะมีการเพิ่มการซื้อขายแบบเศษส่วนหุ้นนี้ในตลาดหลักทรัพย์อื่นด้วย โดยคาดว่าจะสามารถซื้อขายเศษส่วนหุ้นในตลาดฮ่องกงและญี่ปุ่นได้ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ KSS iGlobal ยังมีเครื่องมืออย่าง Technical Analysis รวมถึง Analyst Consensus จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือซึ่งจะให้ข้อมูลของหุ้นที่นักลงทุนสนใจผ่านแอปพลิเคชั่น เพื่อให้นักลงทุนสะดวกในการเรียกดูข้อมูลของหุ้น และมีข้อมูลเพียงพอต่อการประกอบการตัดสินใจในการลงทุน

ทั้งนี้ บล.กรุงศรีได้มีการแต่งตั้งผู้บริหารรุ่นใหม่เสริมทัพเพื่อยกระดับการให้บริการและเพิ่มผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการในการลงทุนที่หลากหลาย เพราะช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาจากวิกฤตโควิด เทรนด์ความสนใจในการลงทุนนั้นสูงขึ้นมากโดยพิจารณาจากการเติบโตของจำนวนบัญชีและปริมาณการซื้อขายต่อวันของตลาดหุ้นไทยและของบริษัท โดยตัวเลขลูกค้าบุคคลที่เปิดบัญชีในปี 2564 เติบโตขึ้น 191% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า โดยคิดเป็นลูกค้าที่ลงทุนผ่านระบบออนไลน์มากกว่า 60% ซึ่งคาดว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับปี 2565 บล.กรุงศรี มุ่งหวังขยายฐานนักลงทุนเพิ่มอีก 10,000 บัญชี โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 1.58% และรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 13%”

ตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา บล.กรุงศรีได้เน้นทำการตลาดออนไลน์มากขึ้นรวมถึงเพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูล เพิ่มสินค้าและบริการ เพื่อให้ตอบโจทย์นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุน Gen X และ Gen Y ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีความสนใจด้านการลงทุนเพิ่มมากขึ้น บริษัทฯยังได้พัฒนาระบบการเปิดบัญชีออนไลน์และอนุมัติบัญชีในเวลาเพียง 1 นาที หากลูกค้ายืนยันตัวตนผ่านระบบ NDID หรือ ยืนยันตัวตนผ่านระบบ Krungsri i-CONFIRM ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาและบริษัทในเครือ รวมถึงสาขาพันธมิตรทั่วประเทศ การฝากเงินหลักประกันแบบเรียลไทม์ที่เพิ่มความสะดวกในการโอนเงินเข้าบัญชีหลักทรัพย์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น การเพิ่มเครื่องมืออย่าง KSS stock AI ที่ใช้ระบบ AI ในการสแกนหุ้นทั้งในเชิงปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยเทคนิค ในรูปแบบการให้คะแนนหุ้นนั้นๆ ทำให้นักลงทุนสามารถค้นหาหุ้นคุณภาพดีด้วยตนเองได้ทุกวัน รวมถึงปัจจุบันกำลังพัฒนาแอปพลิเคชั่น KSS Stock Expert ให้ทันสมัยและสามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจในการลงทุน


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment