JDF แจงงบ Q 1/65 มีรายได้ 138.78 ล้าน มั่นใจทั้งปีโตทะลุ 25%

จดีฟู้ด หรือ JDF เผยงบไตรมาส 1/2565 มีรายได้ 138.78 ล้านบาท กำไร 1.02 ล้านบาท รอลุ้นไตรมาส 2/2565 รายได้กำไรกลับมาเติบโตสวย ประเมินสถานการณ์ธุรกิจกำลังคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น หลังโควิด-19 คลี่คลาย

นางสาวรัตนา เอี้ยประเสริฐศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ JDF เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2565 (สิ้นสุด 31 มี.ค.65) มีรายได้อยู่ที่ 138.78 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.02 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งส่งผลให้การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศล่าช้าลง

โดยผลประกอบการในไตรมาส 1/2565 ปีนี้ กำไรลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน เพราะบริษัทฯ มีค่าการตลาดและการวิจัยพัฒนาที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้มองว่าเป็นส่วนสนับสนุนที่จะสร้างรายได้ กำไร ให้กับบริษัทฯ ในอนาคตได้ และส่วนสำคัญที่กระทบผลงานในไตรมาส 1/2565 คือ การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ทำให้การขนส่งล่าช้า ขอให้นักลงทุนและผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นในการดำเนินงานของเรา ทีมผู้บริหารคาดการณ์ว่าแนวโน้มไตรมาส 2/2565 ตัวเลขยอดขายและกำไรจะเห็นการเติบโตกลับมาที่ชัดเจนมากขึ้น ผนวกกับการรุกตลาดสินค้าแป้งชุบทอด ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฯ ที่เพิ่งพัฒนาร่วมกับลูกค้าเมื่อต้นปีนี้ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายตลาดไปที่เวียดนาม ตามแผนงานที่ได้วางไว้ก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้งยังมี แผนการออก Protein Snack แบรนด์ใหม่ในไตรมาส 3 นี้ด้วย

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังหรือไตรมาส 3/2565 มีโอกาสเติบโตในทิศทางที่ดีและเป้าหมายรายได้ทั้งปี 2565 บริษัทฯ ยังคงคาดว่าจะเติบโต 25% จากปี 2564 ที่มีรายได้อยู่ที่ 585.7 ล้านบาท หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ซึ่งส่งผลให้ความต้องการอาหารทั้งในห้างสรรพสินค้าและสตรีทฟู้ด เริ่มกลับมาเป็นปกติและยังมีสินค้าใหม่โปรตีนอบกรอบ และเครื่องจักรเข้ามาติดตั้งครบแล้ว เตรียมสร้างยอดขายในไตรมาส 4/2565 ให้ดีขึ้น ประกอบกับภายหลังการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เงินระดมทุนส่วนหนึ่งนำไปใช้เพื่อขยายช่องทางตลาดไปยังต่างประเทศ ทั้งประเทศในกลุ่ม CLMV ประเทศจีนตอนใต้และประเทศอินเดีย รวมทั้งลงทุนในการวิจัยและพัฒนารวมถึงเครื่องจักรของกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยจะเริ่มรับรู้รายได้และกำไรจากกลุ่มประเทศ CLMV เข้ามาชัดเจนขึ้น เริ่มจากเวียดนามในช่วงปลายไตรมาส 3/2565 เป็นต้นไป และจะสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญในปี 2566

ทั้งนี้ JDF ยึดมั่นในสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการธุรกิจอาหารทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็น OTOP SMEs หรืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ด้วยสินค้าที่เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและระดับสากล โดยบริษัทฯ วางกลยุทธ์มุ่งสู่การเป็นผู้นำในการผลิตเครื่องปรุงรสอาหารที่มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเป็นหัวใจสำคัญ และเป็นอีกฟันเฟืองในการสร้างความยั่งยืนให้ระบบนิเวศอุตสาหกรรมอาหาร ให้สามารถเติบโตสู่ครัวโลก ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการลงทุนในการสร้างโรงงานใหม่บนพื้นที่ 33 ไร่ ที่จังหวัดสมุทรสาคร และเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องปรุงรสอาหารกว่า 75% จากกำลังการผลิตของโรงงานเดิม โดยทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอาหารมากกว่า 30 ปี ทีมวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารกว่า 22 คน พัฒนาสูตรเครื่องปรุงรสมาแล้วกว่า 2,000 รายการ ให้แก่ลูกค้ากว่า 300 ราย


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment