กองทุนชั้นนำขอซื้อหุ้น ITEL เจรจา Big Lot 10 ล้านหุ้น ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจแกร่ง

ITEL เผย “ณัฐนัย อนันตรัมพร” ซีอีโอ ขาย Big Lot 10 ล้านหุ้น ให้นักลงทุนสถาบันชั้นนำ เพิ่มฐานผู้ลงทุนที่มีความเข้าใจและเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ หลังจากโชว์ฟอร์มผลงานปี 64 สุดแจ๋ว รายได้-กำไร นิวไฮ และพร้อมติดปีกผลงานปี 65 ไม่ทำให้ผิดหวัง มองธุรกิจ Data Center มีโอกาสขยายการเติบโตได้แบบทวีคูณ

นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ทำรายการขายหุ้นบนกระดานรายใหญ่ (Big lot) จำนวน 10 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 0.80% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ในราคาหุ้นละ 5.70 บาท โดยขายให้กับนักลงทุนสถาบันชั้นนำในประเทศไทย หลังเข้าเยี่ยมชมกิจการ และรับฟังแผนธุรกิจมุ่งสู่เป้ารายได้ 5,000 ล้านบาทในปี 2568 จึงแสดงความสนใจขอซื้อหุ้นเพื่อลงทุนในระยะยาว แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในแผนการดำเนินงาน ปัจจัยพื้นฐาน และศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม การขายหุ้นของบริษัทในครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการจัดการ และนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด โดยภายหลังการขายหุ้นดังกล่าว ตนเองยังคงมีสัดส่วนการถือหุ้นใน ITEL 0.25% พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจปี 2565 ติดปีกโตได้อย่างก้าวกระโดด

ส่วนแผนปี 2565 ITEL เตรียมรุกขยายธุรกิจ รับการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศ รวมทั้ง ความต้องการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) มีแนวโน้มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เป็นโอกาสในการขยายตลาดและให้บริการลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ตั้งธงรายได้ปีนี้นิวไฮที่ 3,200 ลบ. และเป้าหมายความสามารถในการทำกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 10% ทั้งนี้ ปัจจุบัน ITEL มีสัญญาในมือ (Contract on Hand) รวมมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 2,400 - 2,500 ล้านบาท ทั้งงานบริการโครงข่ายโทรคมนาคม (Data Service) งานบริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) และงานติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม (Installation) สะท้อนการเติบโตที่มั่นคง

ล่าสุด บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ให้บริการคลาวด์ขนาดใหญ่ระดับโลก (Hyperscale) เพื่อให้เข้ามาใช้พื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์จำนวน 0.6 เมกะวัตต์ และเดินหน้าขยายขนาดดาต้าเซ็นเตอร์เป็น 2.4 เมกะวัตต์ ด้วยงบลงทุนราว 200 ล้านบาท ในขณะเดียวกันบริษัทยังเตรียมจะขยายขนาดเป็น 6 เมกะวัตต์ภายใน 2 ปีข้างหน้า ใช้งบลงทุนอีกราว 300-400 ล้านบาท อีกทั้ง ปัจจุบันบริษัทรอลุ้นผลประมูลงานใหม่เสริมพอร์ต ประเมินมูลค่างานไม่ต่ำกว่า 1,300 ล้านบาท คาดทราบผลภายในไตรมาส 1/2565