DDD ยอดขายปี 64 พุ่ง 41% ใจป้ำปันผลหุ้นละ 0.35 บาท

DDD ประกาศงบปี 64 ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 400 ล้านบาท พุ่งขึ้น 41% ตั้งเป้าปีนี้โตต่อเนื่อง เน้นออกสินค้าใหม่-รุกตลาดออนไลน์เต็มพิกัด บอร์ดไฟเขียวสั่งจ่ายปันผล หุ้นละ 0.35 บาท

นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานประจำปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 1,411.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 410.97 ล้านบาท หรือ 41.08% เทียบปีก่อนหน้า (YoY) โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากยอดขายผลิตภัณฑ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และจากธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิวซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 61.67% รวมถึงรายได้จากผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.22% เป็นหลัก

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในประเทศเพิ่มขึ้น คิดเป็น 59.08% เทียบ YoY เป็นผลจากการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ โซเชียลมีเดีย และผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงตามเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ในส่วนของรายได้จากต่างประเทศนั้นมีรายได้จากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพิ่มขึ้น 65.63% เทียบ YoY จากการเติบโตของตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งผ่านร้านค้า ช่องทางออนไลน์ และทำการตลาดเพิ่มขึ้น

โดยบริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานโดยไม่รวมการวัดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงินและรายได้อื่นอยู่ที่ 29.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 366.7 ล้านบาท หรือ 109% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยค่าใช้จ่ายการตลาดและค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายที่ตรงเป้าหมายกลุ่มลูกค้า ช่องทางจัดจำหน่าย และสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน และปรับแผนการตลาดให้เหมาะสมโดยมุ่งเน้นตลาดออนไลน์เป็นหลัก

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2564 ในอัตรา 0.35 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินรวม 111.26 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลในวันที่ 14 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2565

นางสาวนันทวรรณ กล่าวต่อว่า ในปี 2565 บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากการพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพที่ยังคงมาแรง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับกัญชง รวมถึงการขยายสินค้าแบรนด์ใหม่และการจับมือร่วมทุน หรือนำธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพนอกเหนือจากการเพิ่มยอดการรับจ้างผลิตสินค้าตามคำสั่ง (OEM) ให้กับแบรนด์อื่นๆ นอกเครือของบริษัทฯ รวมถึงการพัฒนาระบบการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) และระบบขนส่ง (Logistics Management) ให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศนอกเหนือจากประเทศฟิลิปปินส์ที่ธุรกิจเติบโตได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ ยังมีแผนงานที่จะขยายธุรกิจไปประเทศอื่นๆเพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment