KWM จบปี 64 สวยกำไรพุ่ง 91.23% แจกปันผล 0.096 บาทต่อหุ้น ปี 65 ตั้งเป้ารายได้โต 10-15%

เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค (KWM) อวดงบปี 2564 โกยกำไรสุทธิ 82.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.52 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 91.23 บอร์ดไฟเขียว ประกาศจ่ายปันผล 0.096บาท/หุ้น เดินหน้าขับเคลื่อน 3 ธุรกิจในเครือต่อยอดธุรกิจ New S-curve สู่การเติบโตครั้งใหม่ หนุนรายได้ปีนี้โต10-15%

นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 2564 บริษัทฯมีรายได้จากการขาย จำนวน 567.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 214.70 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตร้อยละ60.89 เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 82.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.52 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 91.23 เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)

สาเหตุที่ผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น เนื่องจากธุรกิจการเกษตรในช่วงปีที่ผ่านมา มีการขยายตัวถึงร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับปี2563 โดยเฉพาะสาขาพืช ที่มีการขยายตัวร้อยละ 3.3 ขณะที่ สาขาบริการทางการเกษตร ขยายตัวถึง 3.7 ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยสนับสนุนตั้งแต่ต้นปี2564 ทั้งสภาพอากาศโดยทั่วไปที่เอื้ออำนวย ไม่ประสบปัญหาภัยแล้งที่รุนแรง ทำให้สถานการณ์การผลิตพืชดีกว่าปีที่ผ่านมา ประกอบกับในช่วงครึ่งปีแรกของปี2564 ราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตได้สูงขึ้นตาม

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนทั้งจากทางภาครัฐในการส่งเสริมเกษตรกร อาทิ การขยายช่องทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้เกษตรกรมีช่องทางมากขึ้น รวมไปถึงมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเกษตรกร ทั้งการพักชำระหนี้ การประกันรายได้ ทำให้เกษตรกรสามารถผลิตและบริหารจัดการสินค้าเกษตร ให้ออกสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

“อัตรากำไรขั้นต้น มีการปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ ร้อยละ 24.15 เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้น ร้อยละ26.44 ทั้งนี้เป็นผลมาจากบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากราคาเหล็กในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นสูงมากตามสภาพเศรษฐกิจ ประกอบกับปัญหาขาดแคลนเหล็ก ทำให้ราคาเหล็กในตลาดโลกสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามจากการที่บริษัทฯมีการเติบโตของรายได้จากการขายค่อนข้างมาก จึงส่งผลให้ค่าใช้จ่ายต่อหน่วยในการผลิตของบริษัทฯลดน้อยลง เนื่องจากเกิด Economy of Scale”

โดยคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายปันผลงวดปี 2564 (ม.ค.-ธ.ค.) ในอัตราหุ้นละ 0.096 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 45.30 ล้านบาท โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เพื่อดำเนินการจ่ายปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565

นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร KWM กล่าวถึงแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการเกษตรในปี2565 ว่า ธุรกิจการเกษตรยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย และการดำเนินนโยบายด้านการเกษตรที่ต่อเนื่องของภาครัฐ ส่งผลให้เกิดแรงขับเคลื่อนในการใช้สินค้าเครื่องจักรและอุปกรณ์การเกษตรยังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยจะเห็นจากดีมานด์การใช้กลุ่มเครื่องจักรและอุปกรณ์เกษตร ที่มีความต้องการใช้เพิ่ม รวมถึงราคาสินค้าที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น

ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ บริษัทฯได้มีการต่อยอดการลงทุนใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตรอบใหม่ (New S-curve) ให้กับบริษัทฯในอนาคตควบคู่กับธุรกิจเกษตร ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก (core business) ผนวกกับการเดินหน้าขยายการลงทุนภายใต้ 3 บริษัทย่อย ประกอบด้วย

บริษัท เคดับบลิวเอ็ม แคนนาบิเทค จำกัด ดำเนินให้บริการสกัดสารจากพืชสมุนไพรไทย กัญชา-กัญชง ด้วยเครื่องสกัดสารด้วยระบบ SUPERCRITICAL FLUID CO2 EXTRACTION และปัจจุบันบริษัทฯได้พัฒนาเครื่องสกัดเป็นรุ่นที่2 KWM EXTRACTOR 2.0 ภายใต้รูปแบบการสกัด Supercritical CO2 Extraction (ในกลุ่มธุรกิจ SOIL - OIL – EXTRACTION ) โดยตั้งเป้าที่จะติดตั้งเครื่องสกัด ทั้งหมด 20 เครื่องในปีนี้

บริษัท แล็บแอคทีฟ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (JV) ที่บริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วน 51% เพื่อดำเนินธุรกิจการสกัด แปรรูปวัตถุดิบที่ได้จากพืชผลทางการเกษตร และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและสกินแคร์ ในรูปแบบ OEM และ บริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด (KWHB) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (JV) โดย KWM ถือหุ้นในสัดส่วน 51 % และ กลุ่มพันธมิตร ภายใต้บริษัท เฮมพ์บิซ จำกัด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงาน และการติดตั้งเครื่องสกัด โดยเบื้องต้นคาดว่าโรงงานดังกล่าวจะแล้วเสร็จ และสามารถเดินเครื่องสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรไทย ได้ในครึ่งปีแรก2565 และคาดว่าจะสามารถนำสารสกัดที่ได้ไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องสำอาง อาหารเสริม ยา เครื่องดื่ม และอื่นๆได้ทันที

อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยบวกข้างต้นส่งผลให้บริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2565 เพิ่มขึ้น 10-15 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการผลิตเครื่องจักร ทั้งด้านอุปกรณ์การเกษตร และนวัตกรรมการผลิตเครื่องสกัดสารจากพืชสมุนไพร ที่ครบวงจรได้เป็นอย่างดี


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment