โตชิบา ตั้งเป้าโต 2 จุด เร่งขยายไลน์อัพสินค้าใหม่ 50 รุ่น

โตชิบา ไทยแลนด์ เปิดแผนปี 65 ตั้งเป้าโตต่อเนื่อง 2 ดิจิต เปิดตัวสินค้าใหม่ 50 รุ่น รุกตลาดระดับกลางถึงไฮเอนด์ เน้นการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น หวังยึดเบอร์1 กลุ่มตู้เย็น

นายฮิโรยูกิ ทากาเสะ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางของบริษัทฯ เป้าหมายระยะยาว คือ ต้องการเป็น Top 3 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มียอดขายสูงสุดในประเทศ และเป็น No.1 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น สำหรับเป้าหมายระยะสั้น ปีนี้ต้องการยอดขายเติบโตต่อเนื่อง 2 ดิจิต และต้องการเป็น No.1 ในหมวดตู้เย็น และท้ายที่สุด คือการสร้างแบรนด์ให้มีภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัยและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ให้ตอบรับกับผู้บริโภคกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ Young Generation

ซึ่งกลยุทธ์การตลาดในปีนี้ บริษัทฯ เน้นในเรื่อง 1) เรื่องการเพิ่มจำนวนไลน์อัพสินค้าใหม่ให้มีความหลากหลาย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงความใส่ใจในรายละเอียด 2) การเน้นการทำตลาดแบบดิจิทัล หรือ Digital Marketing มากขึ้น เพื่อตอบรับกับเทรนด์ดิจิทัลที่เติบโตต่อเนื่อง และ 3)การบริหารคลังสินค้า ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่ทำให้สินค้าพร้อมสำหรับการส่งต่อให้ผู้บริโภค

สำหรับสินค้าใหม่ ปีนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ 50 รุ่น โดยแบ่งเป็นตู้เย็น 13 รุ่น เครื่องซักผ้า 11 รุ่น และสินค้ากลุ่ม Small Appliance อาทิ ไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น ตู้กดน้ำ รวม 26 รุ่น ทั้งนี้ จะเน้นไปที่สินค้ากลุ่ม Middle to High และ IoT มากขึ้น ส่วนการทำตลาดแบบ Digital Marketing เป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกและประเทศไทยมีการเติบโตที่สูงขึ้นมาก โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมากับสถานการณ์โควิดที่เร่งให้มีการรับรู้ เข้าถึงสินค้า รวมถึงการสั่งซื้อผ่านช่องทางดิจิทัล และอีคอมเมิร์ซที่มากขึ้น ในปีนี้ โตชิบา ไทยแลนด์ทุ่มงบการทำตลาดดิจิทัลมากขึ้นจากอัตราส่วนเดิม 16% เป็น 22% โดยเริ่มจากการพัฒนาเว็บไซต์โตชิบาให้ทันสมัย ข้อมูลครบถ้วน และใช้งานง่ายยิ่งขึ้น การให้ความสำคัญกับการสร้าง Content รวมถึงรีวิว เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ของโตชิบาผ่านช่องทางโซเชียลและออนไลน์ แพลทฟอร์มได้ง่ายและมากขึ้น นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างฐานแฟนเพจ รวมถึงการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งบนเฟซบุ๊ก อินสตราแกรม ไลน์ ยูทูป และติ๊กต็อกของโตชิบามากขึ้น สำหรับเรื่องการบริหารคลังสินค้า เป็นการสร้างรากฐานเพื่อให้พร้อมกับการเติบโตของโตชิบาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บริษัทฯ ได้ย้ายคลังสินค้าไปที่แห่งใหม่ ซึ่งมีพื้นที่มากถึง 24 ไร่ มากกว่าเดิมประมาณ 2 เท่า และในส่วนของพื้นที่การจัดเก็บ เพิ่มขึ้นถึง 75% รวมถึงนำเทคโนโลยีใหม่จากประเทศญี่ปุ่นมาใช้ในการบริหารพื้นที่ และการจัดเก็บให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นางสาวธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวถึงสินค้าใหม่ที่เปิดตัวในวันนี้ว่า โตชิบา ไทยแลนด์ จะเน้นทำการทำตลาดสินค้าในกลุ่มระดับ Mid to High มากขึ้น ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องดีไซน์ที่สวยงามหรูหรา และรวมคุณสมบัติพิเศษมากมายที่สามารถแก้เพนพอยต์จากการใช้งานในชีวิตจริงไว้ทั้งหมดในเครื่องเดียว ที่สำคัญต้องประหยัด ลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวให้กับลูกค้าได้ ซึ่งสินค้าทั้ง 5 ประเภทที่เปิดตัวในวันนี้ ประกอบด้วย ตู้เย็น 2 ประตูขนาดเล็กที่มีช่องกดน้ำดื่มที่ประตู เครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่มาพร้อมระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ เครื่องกดน้ำร้อนน้ำเย็นชนิดที่มีระบบ UV ฆ่าเชื้อ เครื่องซักผ้าฝาหน้าแบบ 2 ถังบนล่างที่แยกการทำงานกันชัดเจน และเครื่องฟอกอากาศขนาดกะทัดรัดที่มีระบบฟอกอากาศ และดักจับฝุ่นและเชื้อโรคได้เล็กถึงขนาด 0.3 ไมครอน

ส่วนนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวเสริมว่า โตชิบา ไทยแลนด์ เชื่อมั่นว่าด้วยเทคโนโลยีมาตรฐานญี่ปุ่น การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ทั้งในเรื่องคุณภาพ ความสะดวกสบาย ดีไซน์ ไปจนถึงการประหยัดพลังงานและรักสุขภาพ บวกกับประสบการณ์ของทีมงานบริษัทฯ ในการทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์โตชิบาจะก้าวขึ้นสู่ Top 3 ในตลาดได้ในไม่ช้า มียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี และจะยังคง ‘นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต’ ให้กับคนไทยอยู่เสมอ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าแคมเปญ #Details Matter ที่สื่อว่าโตชิบาเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การคิดค้นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต่างๆ โดยผสมผสานเทคโนโลยีและความห่วงใยคุณภาพชีวิตของผู้ใช้ รวมถึงการสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ การดูแลพาร์ทเนอร์และลูกค้า การพัฒนาพนักงานขายให้เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของลูกค้า สามารถอธิบายประโยชน์และรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ทั้งยังให้คำแนะนำหลังการขายอีกด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของโตชิบาจะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคได้มากที่สุด และท้ายที่สุด การตอบแทนสังคม ที่โตชิบาทำต่อเนื่องเสมอมา