มิตซูบิชิ อีเล็คทริคจัดทัพสินค้าใหม่สู้ศึกแอร์

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค จัดทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ 5 กลุ่ม สู้ศึกชิงแชร์แอร์ อัดแคมเปญโฆษณา และออนไลน์เต็มสูบ หวังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ครบทุกเซ็กเม้นท์ ตั้งเป้าปี 65 ยอดขายเติบโตกว่า 120%

นายชินจิ คามิยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทพร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลากหลายไลน์อัพ อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ตู้เย็น พัดลม พัดลมระบายอากาศ เครื่องฟอกอากาศ รวมทั้งเครื่องปรับอากาศ และระบบปรับอากาศเชิงพาณิชย์ เป็นต้น

บริษัทฯ ยังมุ่งยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างธุรกิจ ทั้งระบบโลจิสติกส์และบริการหลังการขาย โดยในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ ตั้งแต่การสร้างคลังสินค้า เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าทางภาคเหนือขึ้นที่จังหวัดลำปาง ในปี 2562 และได้สร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ในเขตภาคอีสานขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อเดือนพฤศจิกายน ในปี 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้สามารถลดเวลาในการส่งมอบสินค้าได้รวดเร็ว มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ด้านบริการหลังการขาย ได้ลงทุนกว่า 60 ล้านบาท เพื่อพัฒนานำระบบ “Online service system” เข้ามาใช้ ช่วยให้กระบวนการทำงานทุกขั้นตอนตั้งแต่รับเรื่องแจ้งซ่อมจากลูกค้าไปจนถึงซ่อมเสร็จเป็นไปอย่างรวดเร็ว ช่วยย่นระยะเวลาและตอบสนองต่อการซ่อมบริการได้ดียิ่งขึ้น

ด้านยอดขายของบริษัทฯ ในปีงบประมาณ 2564 (เมษายน 2564 – มีนาคม 2565) จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตาม เครื่องปรับอากาศภายในบ้านซึ่งเป็นสินค้าหลัก ยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งไว้ได้ ด้านตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในปี 2564 หดตัวลงโดยมีอัตราการเติบโตเพียง 93% เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งบริษัทฯ ก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงไตรมาส 2 (กรกฎาคม - กันยายน) และคาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายจะอยู่ที่ 95% ณ สิ้นปีงบประมาณ 2564

ทั้งนี้ในปี 2565 เป็นต้นมา จากผลกระทบของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน ทำให้เรายังคงเผชิญกับสถานการณ์ ที่ไม่แน่นอน คาดการณ์ว่าความต้องการในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า (ที่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเชิงพาณิชย์) จะกลับมามีสภาพใกล้เคียงกับปี 2562 ได้หลังปี 2566 ดังนั้นการขายในปีงบประมาณ 2565 นี้ (เมษายน 2565 - มีนาคม 2566) บริษัทฯ จึงยังคงมุ่งเน้นการเสริมฟังก์ชั่น เพิ่มไลน์อัพผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงยกระดับด้านการขนส่งโลจิสติกส์และงานบริการหลังการขาย พร้อมทุ่มงบประมาณส่งเสริมการขายกว่า 1,100 ล้านบาท เพื่อมุ่งสู่ารขายให้เติบโตกว่าปีที่ผ่านมาในอัตรา 120%

นายชินจิ กล่าวอีกว่า ด้านแผนงานธุรกิจทั้งในระยะกลางและระยะยาว บริษัทฯ มุ่งเน้นการทำตลาดในธุรกิจ B2B โดยเน้นเสริมทุน และทรัพยากรที่สร้างความเจริญเติบโตให้ยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ และมีแผนที่จะขยายศูนย์บริการสาขา “สำนักงานสนับสนุนลูกค้าโครงการระบบปรับอากาศซิตี้มัลติ” ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ (ปัจจุบัน 6 สาขา และจะเพิ่มให้มี 8 สาขาภายในปี 2568) พร้อมนำเสนอคุณค่าใหม่ ๆ แก่ลูกค้าด้วยระบบปรับอากาศเชิงพาณิชย์ และอุปกรณ์เพิ่มเติมจากผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายในกลุ่ม B2B ให้สูงขึ้นที่ 30% ของยอดขายรวมของบริษัทฯ ในปีงบประมาณ 2568

นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งด้านงานบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่องโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก โดยได้พัฒนาระบบบริการหลังการขายแบบ Real Time ด้วยระบบ “MKY Online Service System” เชื่อมโยงศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา และศูนย์บริการแต่งตั้งทั่วประเทศ เพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าทั้งกลุ่ม B2C และ B2B มากยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มเครือข่ายในการสื่อสารที่ทันสมัยให้ทีมช่างเทคนิคของศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา และศูนย์บริการแต่งตั้ง สามารถติดต่อประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มศักยภาพในการให้บริการหลังการขายสำหรับกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ครอบคลุม ทุกภูมิภาค สอดคล้องตามนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ด้านการขยายฐานลูกค้ากลุ่มธุรกิจ B2B เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจภายใต้แผนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศของภาครัฐ ดังนั้นเราจะเน้นเสริมกำลังทีมช่างผู้ชำนาญการ เพื่อรองรับงานบริการ ณ ศูนย์บริการสาขา “สำนักงานสนับสนุนลูกค้าโครงการระบบปรับอากาศซิตี้มัลติ” ทั้ง 8 แห่ง ทั่วประเทศ

โดยปีนี้บริษัทฯ ได้ขยายขอบเขตการให้บริการไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ อาทิ ตู้เย็น พัดลม และปั๊มน้ำ เป็นต้น ด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรช่างเทคนิค ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการฝึกอบรมให้สอดคล้องกับวิถี New Normal ด้วยการสอนผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ให้แก่บุคลากรช่างเทคนิคของศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา และศูนย์บริการแต่งตั้ง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านงานบริการให้กับลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมให้ลูกค้ามีความมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานการให้บริการหลังการขายของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค และถึงแม้ว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะยังไม่แน่นอน แต่บริษัทฯ จะยังคงเดินหน้าเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าของเราอย่างเต็มกำลัง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องต่อไป

ขณะที่ นายทาคาชิ ฟูจิกิ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดในปี 2565 นี้ สำหรับกลุ่ม B2C บริษัทฯ เน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์หลัก ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ตู้เย็น พัดลม เป็นต้น เพื่อให้เกิดพื้นที่ที่สะดวกสบาย โดยมุ่งเน้นที่คุณภาพของเครื่องปรับอากาศพร้อมด้วยการพัฒนาฟังก์ชั่นการทำงาน ทั้งด้านการไหลเวียนอากาศและความสะอาดของอากาศ นอกจากนี้ในกลุ่มธุรกิจ B2B บริษัทฯ มุ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ เพื่อรองรับความต้องการด้านสาธารณูปโภคที่กำลังเติบโต รวมถึงโรงแรมและร้านค้าในต่างจังหวัด โดยนำเสนอเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ล่าสุดที่เหมาะสำหรับร้านค้า คือเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม Standard Inverter M-Series เพื่อขยายธุรกิจ B2B ต่อไป”

ส่วนกลยุทธ์ด้านการสื่อสารการตลาดในปีนี้ บริษัทฯ เน้นเสริมแกร่งด้านการสื่อสารออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งพัฒนา คอนเทนต์ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ และเข้าใจในลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์ได้ง่าย พร้อมทั้งปรับปรุงรูปแบบการจัดแสดงผลิตภัณฑ์หน้าร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจในผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งสร้างการรับรู้ แบรนด์ผ่านการร่วมเป็นผู้สนับสนุนสโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (BGPU) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 นอกจากนี้ ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมที่ทำให้สัมผัสถึงพื้นที่ปรับอากาศที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นและประหยัดพลังงาน” เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ง่ายถึงฟังก์ชั่นการใช้งานของ 3D-Move Eye Kiwami โดยจะเริ่มออกอากาศกลางเดือนกุมภาพันธ์ นี้ พร้อมทั้งยังคงยึดมั่นในถ้อยแถลงองค์กรที่ว่า “Changes for the Better” “การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า” โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ นำเสนอแก่ผู้บริโภค เพื่อครอง Top Brand ที่ได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจต่อเนื่อง


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment