หมอนทองไทยครองใจคนจีน

พาณิชย์สุดปลื้มทุเรียนหมอนทองไทยชนะใจคนจีน แนะ ผู้ประกอบการไทยเร่งส่งออกอาหารโปรตีนจากพืช

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ที่ ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศที่ได้วิเคราะห์โอกาสำคัญทางการค้าสำหรับผู้ประกอบการสินค้าผลไม้ และโปรตีนจากพืช โดยทุเรียนสดเป็นผลไม้ที่จีนนำเข้าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2563 มีปริมาณการนำเข้า 0.575 ล้านตัน รวมเป็นมูลค่า 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 44% เมื่อเทียบกับปี 2562 คิดเป็นสัดส่วน 22.4% ของมูลค่าการนำเข้าผลไม้ทั้งหมดของจีน

ปัจจุบัน จีนอนุญาตให้นำเข้าทุเรียนสดจากประเทศไทยเท่านั้น โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์หมอนทองจากไทย และอนุญาตนำเข้าทุเรียนแช่แข็งทั้งลูกจากประเทศมาเลเซีย แต่ปริมาณของทุเรียนมาเลเซียในตลาดจีนยังน้อย คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 10% ของปริมาณทั้งหมดในตลาด ขณะที่นำเข้าจากไทยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 90% ผู้บริโภคหลักเป็นเพศหญิง คิดเป็นสัดส่วน 88% และเป็นกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะคนที่มีอายุระหว่าง 24 - 30 ปี ผ่านช่องทางร้านขายผลไม้ และแพลตฟอร์ม E-commerce ดังนั้น สำหรับผู้ประกอบการที่ประสงค์ส่งออกทุเรียนไทยเข้าตลาดจีน อาจต้องวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวกับความต้องการจากกลุ่มผู้บริโภคหลักดังกล่าว เพื่อได้ส่งเสริมการจำหน่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ อาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based) ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารแห่งอนาคต (Future Food) ที่รองนายกฯ จุรินทร์ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการส่งออกนั้น ก็มีความต้องการสูงมากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา สเปน สหราชอาณาจักร เป็นต้น โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สเปนมียอดขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถึง 448 ล้านยูโร ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 48 มีน้ำนมจากพืชเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด รองลงมาได้แก่ ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช และโยเกิร์ตจากพืช ในส่วนของผลิตภัณฑ์น้ำนมจากพืชนั้น น้ำนมจากข้าวโอ๊ตมียอดขายสูงสุด รองลงมา ได้แก่ น้ำนมจากถั่วเหลือง และน้ำนมจากเมล็ดอัลมอนด์

ในประเทศสหราชอาณาจักร ในปี 2564 มียอดจำหน่ายนมจากเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 28.3 และคาดว่านมมันฝรั่งจะได้รับความนิยมในปี 2565 นี้ ส่วนเคเอฟซีในสหรัฐอเมริกาก็ตอบรับกระแสความนิยม โดยประกาศเพิ่มอาหารที่ทำจากเนื้อไก่เทียมเข้าไปในเมนูอาหารของทางร้าน ซึ่งในปี 2563 ตลาดอาหารทำจากพืชในสหรัฐฯ มีมูลค่าตลาดค้าปลีกประมาณ 7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 27% และคาดว่าตลาดจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 13.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2570 สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายตลาดไปในสหรัฐฯ ควรศึกษาการขอรับเครื่องหมายรับรองว่าเป็นสินค้าอาหารทำจากพืชจากองค์กรในสหรัฐฯ และพิจารณาการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่สำคัญในสหรัฐฯ 2 งาน คือ 1) Plant Based World Conference and Expo 2564 วันที่ 8 - 9 กันยายน 2565 ณ นครนิวยอร์ก และ 2) Natural Product Expo East 2565 วันที่ 29 กันยายน - 1 ตุลาคม 2565 ณ นครฟิลลาเดลเฟีย